The Boy and the Heron : หนังอนิเมสื่อการคัมแบ็ค กับ อนาคต ของ Hayao Miyazaki

The Boy and the Heron : หนังอนิเมสื่อการคัมแบ็ค กับ อนาคต ของ Hayao Miyazaki

Hayao Miyazaki ยอดผกก.หนังอนิเมแห่ง Studio Ghibli ได้หวนคืนสู่การทำหนังอนิเมที่เขารักอีกหน หลังจากหนัง The Wind Rises ฉายไปเมื่อปี 2013 กับ The Boy and the Heron เด็กชายกับนกกระสา โปรเจ็คหนังอนิเมที่เขาได้เตรียมการมานาน ตั้งแต่ปี 2016 นู่น ซึ่งดัดแปลงมาจาก Kimi-tachi wa Dō Ikiru ka (How Do You Live?) ผลงานนิยายของ Genzaburo Yoshino ที่ได้นำเสนอเกี่ยวกับแนวคิดการตามหาตัวตน คุณค่าของความเป็นมนุษย์ ซึ่งในอนิเมดังกล่าวได้นำเสนอผ่านทางตัวละคร เด็กชาย กับ นกกระสา ตามชื่อเรื่อง

และด้วยสังขารปัจจุบันของ Miyazaki ประกอบกับเกิดช่วงวิกฤตโควิด ทำให้หนังชุดนี้ดำเนินการจัดทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมฉาย ก็คือวันที่ 14 ก.ค. 2023 ที่ผ่านมา แม้ว่าตัวหนังชุดนี้ จะเป็นหนังเรื่องแรกของ Ghibli ที่ได้ฉายบนโรงหนัง IMAX ของญี่ปุ่น พร้อมกับโรงหนังปกติ ถึงกระนั้น ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะเข้าฉายนั้น กลับไม่มีการโปรโมทใดๆจากทาง Ghibli เลย ทั้งในส่วนของโปสเตอร์ , เทรลเลอร์ ทีเซอร์หนัง หรือ โฆษณาทางสื่อต่างๆ แม้กระทั่งข้อมูลเกี่ยวกับทีมงาน กับ นักพากย์ของหนัง ก็ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา ซึ่งก็ทำเอา Miyazaki รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก กับกลยุทธ์นี้ ที่มาจากไอเดียของ Toshio Suzuki ผู้ร่วมก่อตั้ง Ghibli ที่หวนคืนสู่ตำแหน่งประธานสตูดิโอแห่งนี้อีกครั้ง เมื่อต้นปี 2023

แม้จะเป็นไอเดียแสนพิลึกพิลั่นที่มาจาก Suzuki เพื่อนรักของเขา แต่ชื่อของ Miyazaki รวมถึง Ghibli ยังคงขายได้เสมอ ซึ่งหลังจากตัวหนังได้เข้าฉายบนโรงช่วงสุดสัปดาห์แรก ก็สามารถเปิดตัวครั้งแรกด้วยอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น พร้อมพกสถิติ หนังที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Ghibi ด้วยรายได้ 1.8 พันล้านเยน ในช่วงสุดสัปดาห์แรก ก่อนจะกวาดรายได้ในญี่ปุ่นรวมกันถึง 8.66 พันล้านเยน ณ วันที่ 24 ธ.ค. 2023

ขณะเดียวกัน ตัวหนังยังสามารถสร้างสถิติใหม่ยังนอกญี่ปุ่น จากการที่ตัวหนังเรื่องนี้ เป็นหนังอนิเมของ Miyazaki เรื่องแรก ที่สามารถรั้งอันดับ 1 บน Box Office อเมริกาเหนือ อีกทั้ง ยังเป็นหนังอนิเมออริจินอลเรื่องแรกของญี่ปุ่น ที่รั้งอันดับ 1 บน Box Office อเมริกาเหนือ เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ตัวหนังยังสามารถกวาดรางวัลชนะเลิศจากเวทีรางวัลต่างประเทศมากมาย รวมถึง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 81 ถึง 2 สาขารางวัล ด้วยกัน (ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)

จากการมาของหนังชุดนี้เอง ก็ทำให้มีแฟนๆหลายภาคส่วน ต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตต่อจากนี้ไปของ Miyazaki จากการที่อายุกับสังขารในปัจจุบันของเขา ก็ล่วงเลยถึงวัย 82 ปี เข้าแล้ว ซึ่งหากใครที่ติดตามข่าวของผกก.ท่านนี้มานาน ก็จะพบว่า Miyazaki ผู้นี้ มักชอบประกาศวางมือจากการทำหนัง มาตั้งหลายครั้งหลายครา หลังจาก ผลงานหนังอนิเมของเขาออกสู่สายตาแฟนๆ ซึ่งรวมถึง Princess Mononoke, Spirited Away จนถึง The Wind Rises ด้วย แต่จนแล้วจนรอด เขามักจะกลับคำพูดตัวเอง ด้วยการทำหนังเรื่องใหม่ทุกครา (และด้วยความกลับลำของเขา ก็มักถูกแฟนๆบางส่วนแซวยับตามมา จนถึงทุกวันนี้)

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศรีไทร์จาก Miyazaki ใดๆ หลังจาก The Boy and the Heron ฉายไป ประกอบกับ ฝ่าย PR ของ Ghibli ได้ยืนยัน ณ งานเทศกาลหนังงานหนึ่งที่แคนาดา ว่า The Boy and the Heron ยังไม่ใช่หนังเรื่องสุดท้ายของ Miyazaki และตัว Miyazaki เอง ยังคงมาทำงานที่ออฟฟิศพร้อมกับนำเสนอไอเดียใหม่ๆแล้ว ซึ่งก็ต้องติดตามอนาคตของเขากันต่อไปตามระเบียบ ซึ่งรวมไปถึง อนาคตของ Ghibli ภายใต้การบริหารของ NTV / Nippon TV ที่เข้ามาซื้อกิจการของสตูดิโอ เป็นที่เรียบร้อย แล้วเช่นกัน