รีวิว Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูร

ดาบพิฆาตอสูร

ซีรีส์และภาพยนตร์ Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูร ที่เตือนให้เรารู้ว่า ‘หัวใจเราแข็งแกร่งได้ไม่มีที่สิ้นสุด’

 เปิดตามหน้าฟีด Facebook เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรมาแรงเท่า ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ หรือ Kimetsu no Yaiba the Movie Mugen Train ภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อจากซีรีส์ที่ผลิตโดยบริษัท Ufotable ที่เคยผลิตแอนิเมชั่นดังอย่าง Fate เป็นต้น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างตบเท้าเข้าโรงไปดู บางคนก็คอสเพลย์เป็นตัวละครเข้าไปดูด้วยเพื่ออรรถรส สมกับเป็นแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและเป็นแฟรนไชส์ที่ทำรายได้ได้มหาศาลที่สร้างเม็ดเงินกว่า 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากยอดขายหนังสือ ยอดขายที่มาจากภาพยนตร์และสินค้าต่างๆ

ยังไม่นับที่ได้จากการนำไปดัดแปลงเป็นละครเวที นอกรายได้งามแล้วยังได้รับคำชมอย่างล้นหลาม  ตอนนี้มีแอนิเมชั่นออกมาทั้งหมด 1 ซีซั่น 26 ตอนและภาพยนตร์ ที่เพิ่งเข้าฉายก็เป็นภาคต่อจากตอนสุดท้ายของซีรีส์พอดีเป๊ะ หลายคนกล่าวว่าเป็นแอนิเมชั่นแห่งปีที่ไม่ควรพลาดชม เราเลยเริ่มดูตั้งแต่ซีรีส์ไล่เรียงไปจนถึงภาพยนตร์ และเมื่อเราได้ดูจนจบก็พบว่าคำชมนั้นไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เนื้อเรื่องเริ่มต้นเป็นเรื่องราวของ ‘ทันจิโร่’ หนุ่มน้อยที่ครอบครัวถูกฆ่า

โดยอสูรและผู้เหลือรอดคนเดียวอย่าง เนซึโกะ น้องสาวของเขาก็กลายเป็นอสูรไปด้วย ทันจิโร่จึงตั้งปณิธานที่จะหาทางให้เนซึโกะกลับมาเป็นคนให้ได้ เพื่อจะบรรลุเป้าหมายเขาฝึกตนเพื่อเป็นนักล่าอสูรและเข้าร่วมหน่วย และระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับมิตรและศัตรูมากมาย และในภาพยนตร์ ก็จะเป็นการปราบปีศาจที่อยู่บนรถไฟนิรันดร์ โดยทันจิโร่กับเพื่อนๆ ร่วมทำภารกิจกับ ‘เร็นโงคุ’ เสาหลักเพลิง ผู้มีเก่งกาจ เพื่อต่อสู้กับ ‘เอ็นมุ’ อสูรข้างแรมที่ 1 ตัวท็อปผู้เหลือรอดของฝั่งอสูรข้างแรม

สิ่งที่ดีของ Demon Slayer คือเรื่องราวที่ดูสนุก เข้าใจง่าย แต่ก็มีเนื้อหาที่ซับซ้อน ลุ่มลึก และสะท้อนชีวิตได้มากมาย หากเรามองลึกเข้าไปถึงความหมายของแต่ละเรื่องราวที่ฉายอยู่บนจอ ภาพในซีรีส์และภาพยนตร์ออกมาสวยงามตื่นตามาก ฉากแอคชั่นทำออกมาได้ยอดเยี่ยมและไม่ซ้ำซาก แม้ตัวเอกจะออกกระบวนท่าการต่อสู้ที่ซ้ำเดิมแต่เรากลับไม่รู้สึกเบื่อหรือเป็นแพทเทิร์นจนเกินไป ดนตรีและองค์ประกอบอื่นๆ ก็ช่วยอุ้มให้เรื่องดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เรื่องราวดราม่าเข้มข้นที่เล่าได้กระชับไม่เยิ่นเย้อชวนให้ตื่นเต้น แต่ก็มีตอนที่ผ่อนคลายลงให้ผู้ชมไม่ต้องใจเต้นจนเหนื่อยตลอด 26 ตอน และในภาพยนตร์งานภาพก็โดดเด่นขึ้นไปอีกขั้นกับมุมกล้องที่ฉวัดเฉวียน อลังการสมการฉายบนจอใหญ่ การออกแบบภาพที่ยอดเยี่ยมและการทำฉากแอคชั่นเป็นจุดเด่นของแอนิเมชั่นชุดนี้ และยิ่งเด่นชัดเมื่ออยู่บนจอภาพยนตร์ ตั้งแต่ครึ่งเรื่องแรกเราจะได้พบกับฉากการต่อสู้ที่ดีแทบจะที่สุดตั้งแต่ดูมา จนแอบคิดว่ามันจะดีกว่านี้ได้อย่างไร และเมื่อเราดูจนจบก็พบว่าผู้สร้างทำได้น่าทึ่งขึ้นเรื่อยๆ จนจบเรื่อง

ความยอดเยี่ยมของ Demon Slayer อีกอย่างคือการวางตัวละครเอกที่ทำให้คนรักได้โดยง่าย อย่าง ‘ทันจิโร่’ พระเอกของเราที่มีความมานะบากบั่นที่จะฝึกฝน ความสามารถที่แท้จริงของทันจิโร่ที่เห็นอาจะไม่ใช่ปราณต่างๆ ที่เขาใช้ปราบอสูร ไม่ใช่กระบวนดาบ แต่เป็นความรักที่มีต่อน้องสาวและความสามารถที่จะอดทน ที่เป็นแรงขับให้เขาพัฒนาขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ผู้เขียนได้สร้างตัวละครที่มีสีสัน และการใส่ความย้อนแย้งลงไปในทุกตัว ก็ยิ่งทำให้ตัวละครแตกต่างและน่าสนใจ

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *