เรื่องย่อ T・P BON (ตำรวจกาลเวลา)
ติดตามเรื่องราวของ บอน เด็กหนุ่มผู้แสนธรรมดาที่ทำทุกอย่างได้อย่างครึ่งๆ กลางๆ ไม่มีอะไรที่ถนัดหรือเก่งเป็นพิเศษ อยู่มาวันหนึ่งเขาได้บังเอิญถูกดึงเข้าไปพัวพันกับการเดินทางข้ามกาลเวลาและได้พบกับหญิงสาวผู้เป็นตำรวจกาลเวลาจากอนาคตที่ย้อนเวลากลับมาเพื่อทำภารกิจ หลังจากเข้าไปพัวพันจนไม่สามารถถอนตัวได้ บอนจึงต้องจำใจเข้าร่วมเป็น ตำรวจกาลเวลา ฝึกหัดและออกเดินทางไปทำภารกิจร่วมกับรีมเพื่อย้อนเวลากลับไปช่วยเหล่าผู้คนในอดีต โดยท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร การเดินทางของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะได้ย้อนกลับไปช่วงเวลาไหนบ้าง ทุกคนคงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง
รีวิว T・P BON (ตำรวจกาลเวลา)
สำหรับ การ์ตูนไซไฟ เรื่องนี้ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยได้ยินชื่อหรือรู้จักมาก่อนเลย รู้จักครั้งแรกก็ตอนที่มันติดอันดับบน Netflix พอรู้ว่าเป็นผลงานจากผู้สร้างโดราเอม่อนก็เลยลองตัดสินใจดู แต่ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว เพราะทั้งลายเส้นและตัวละครในเรื่องนี่เหมือนกับโดเรม่อนเป๊ะๆ ซึ่งหลังจากได้เริ่มดูไปเพียงไม่กี่ตอน ผมก็ติดงอมแงมแบบหยุดไม่ได้ ดูรวดเดียวจบเลย เพราะมันสนุกและดูเพลินมาก ชอบมากที่มันมีทั้งความดาร์กและความเรียล อีกทั้งยังสอดแทรกความรู้ด้านประวัติศาสตร์ให้คนดูทุกตอนด้วย ผสมไปกับการเสียดสีอันเฉียบคมผ่านบทพูดของตัวละคร ยกให้เป็นการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่ทุกคนไม่ควรพลาดจริงๆ
ความเจ๋งของเรื่องนี้ก็คือเขาผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีหลายอย่างในเรื่องที่ให้กลิ่นอาย การ์ตูนเด็ก เบาสมองแบบโดเรม่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลายเส้น ดีไซน์ตัวละคร ไปจนถึงการดำเนินเรื่องแบบจบในตอนที่พาเราย้อนเวลาไปดูเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์พร้อมทรอดแทรกความรู้ รวมไปถึงของวิเศษต่างๆ จากโลกอนาคตที่ให้อารมณ์เดียวกับโดเรม่อนเป๊ะๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีการทอดแทรกความเป็นผู้ใหญ่ลงไปด้วยฉากดาร์กๆ หลายฉาก เช่นฉากการตายในตอนแรกของเพื่อนบอน หรือฉากสงครามเปอร์เซียช่วงตอนท้ายๆ ที่มีซีนตัดหัวขาดแบบเลือดสาดเต็มจอ ยังดีที่เขาไม่ได้ใส่ความดาร์กมามากเกินไป คือใส่มาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตัดเลี่ยนให้คนดู เพราะส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสนุกและความรู้ทางประวัติศาสตร์เป็นหลัก
สรุปภาพรวมถือว่าเป็น การ์ตูน อีกเรื่องที่สนุกดูเพลินมากๆ โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนเดนตายของโดเรม่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมคิดว่าคุณก็น่าจะหลงรักเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน แต่มันอาจไม่ได้เหมาะกับทุกวัยขนาดนั้น เพราะมีฉากและเนื้อหาความรุนแรงค่อนข้างเยอะ ข้อดีอีกอย่างของเรื่องนี้ก็คือเราไม่ต้องโฟกัสกับเส้นเรื่องมาก ไม่จำเป็นต้องดูทีเดียวจบก็ได้ ดูวันละตอน 2 ตอนยังได้เลย เพราะส่วนใหญ่จะเล่าแบบจบในตอน ไม่ได้มีเส้นเรื่องหลักที่ชัดเจนขนาดนั้น เอาเป็นว่าทุกคนไปลองดูกันเองดีกว่า จะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่ส่วนตัวสำหรับผมคือผมชอบเลย แถมตอนนี้ซีซัน 2 ก็ทำเสร็จแล้วด้วย โดยมีกำหนดการที่จะเปิดตัวตามออกมาในเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้น ใครที่ดูซีซันแรกไปแล้วชอบก็ตั้งตารอกันได้เลย
