รีวิวหนังรัก คิดถึงวิทยา (2014)

รีวิวหนังรัก คิดถึงวิทยา (2014)

หนังรักอบอุ่นหัวใจที่บรรจงถ่ายทอดความเหงา ความหวัง และการเชื่อมโยงกันระหว่างสองชีวิตที่ไม่เคยได้พบหน้า ผ่านตัวหนังสือไม่กี่บรรทัดในสมุดบันทึกเก่าๆ หนังเริ่มต้นด้วยการพาเราย้อนกลับไปสู่พื้นที่ที่เงียบเหงาที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยโรงเรียนกลางน้ำบนเขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่ที่แทบไม่มีผู้คน ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงรถแล่นผ่าน มีเพียงเสียงลม น้ำ และภูเขารายล้อมเป็นเพื่อน

สองตัวละครหลักที่หนังเล่าเรื่องผ่านพวกเขา คือ “ครูสอง” ชายหนุ่มที่ชีวิตเหมือนเดินมาถึงทางตัน ถูกย้ายให้มาสอนเด็กไม่กี่คนกลางเขื่อนด้วยสภาพจำใจ เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย ความรู้สึกหมดไฟ และความไม่เข้าใจว่าชีวิตควรไปทางไหน และ “ครูแอน” หญิงสาวที่เคยมาทำหน้าที่เดียวกันที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ทิ้งไว้เพียงสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เธอเขียนทิ้งไว้ในห้องพักครู สมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยความคิด ความฝัน ความเหงา และเสียงหัวใจที่เธอฝากไว้กับสถานที่แห่งนี้

เมื่อครูสองพบสมุดบันทึก เขาก็เริ่มอ่านมันทีละหน้า ทีละบรรทัด จากความเฉยเมย กลายเป็นความสนใจ จากความสนใจ กลายเป็นความรู้สึกผูกพัน เขารู้สึกเหมือนได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเจอหน้า แต่กลับเข้าใจเธอในแบบที่เขาไม่เคยเข้าใจใครมาก่อน ผ่านตัวหนังสือและเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่ครูแอนบันทึกไว้ หนังเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย ไม่มีฉากหวือหวา ไม่มีบทสนทนาเลิศหรู มีเพียงธรรมชาติ เสียงน้ำ เสียงลม และเสียงหัวใจของคนสองคนที่ค่อยๆ ถักทอเข้าหากันอย่างเงียบๆ.

บทของครูสองที่นำแสดงโดย บี้ สุกฤษฎิ์ ถ่ายทอดความเฉื่อยชาและความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความเบื่อหน่ายที่ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม ความเอ็นดูต่อเด็กๆ ในโรงเรียน และในที่สุดก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขากลับมารักในสิ่งที่ทำอีกครั้ง ส่วน พลอย เฌอมาลย์ ในบทครูแอน แม้จะไม่ได้มีบทบาทในเรื่องมากนักในแง่ของเวลา แต่กลับกลายเป็นตัวตนที่ชัดเจนอยู่ในทุกอณูของเรื่องราว ความน่ารัก อ่อนโยน และความเหงาลึกๆ ของเธอทำให้สมุดบันทึกเล่มนั้นเหมือนมีชีวิตจริงๆ

เป็นหนังที่ไม่ได้บอกว่าความรักต้องเกิดขึ้นจากการพบหน้า หรือการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่มันพิสูจน์ให้เห็นว่า การเชื่อมโยงระหว่างคนสองคนอาจเกิดขึ้นได้จากการเข้าใจในหัวใจของกันและกัน แม้จะห่างไกล แม้ไม่เคยแม้แต่สบตากันจริงๆ เลยก็ตาม มันทำให้เรานึกถึงใครบางคนที่เราอาจเคยรู้สึกผูกพันด้วยโดยไม่มีเหตุผล นึกถึงจดหมายที่เขียนถึงกันในวันที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโซเชียลมีเดีย มีเพียงความรู้สึกที่จริงแท้เท่านั้นที่เดินทางข้ามเวลาและระยะทางมาได้

หนังจบลงด้วยความรู้สึกอิ่มใจ มันไม่ได้ทิ้งบทสรุปหวือหวา ไม่ได้วาดฝันแบบโรแมนติกเกินจริง แต่มันทิ้งความหวังเอาไว้ในใจ ว่าไม่ว่าชีวิตเราจะหลงทางไปแค่ไหน สักวันหนึ่ง เราอาจได้พบใครบางคนที่ทำให้เรากลับมาเชื่อในความฝันของตัวเองอีกครั้ง แม้เพียงผ่านตัวหนังสือ ผ่านความทรงจำ ผ่านสายลมที่พัดเบาๆ ก็ยังมีความหมาย คิดถึงวิทยา ไม่ใช่แค่หนังรัก แต่มันคือจดหมายรักถึงชีวิต ถึงความเหงา และถึงความหวังเล็กๆ ที่ยังซ่อนอยู่ในทุกคนเสมอ

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *