เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการอนิเมะเลยก็ว่าได้ สำหรับ ไคจูหมายเลข 8 (Kaiju No.8) อนิเมะดัดแปลงมาจากมังงะเรื่องดังผลงานการเขียนของ นาโอยะ มัตสึโมโตะ (Naoya Matsumoto) โดย Toho Animation อนิเมะเรื่องแรกที่ออกอากาศผ่านแพล็ตฟอร์ม X (Twitter) ฟังไม่ผิดค่ะ ออกอากาศให้รับชมพร้อมกันทั่วโลกแบบ Live Streaming บนทวิตเตอร์จริง ๆ ซึ่ง EP. 1 ที่ออกอากาศไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากทั้งแฟน ๆ Kaiju No.8 และแฟนอนิเมะทั่วโลกกว่าหนึ่งแสนคน! ส่วนตัวรู้สึกค่อนข้างว้าวมาก เพราะคุณภาพสตรีมออกมาดีเลยค่ะ เห็นถึงความตั้งใจของทีมอนิเมะแล้วก็อยากจะมารีวิวและแนะนำอนิเมะเรื่องนี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะเรื่องนี้สนุกและน่าสนใจมากจริง ๆ
เนื้อเรื่องย่อ
Kaiju no.8 เรื่องราวของฮิบิโนะ คาฟก้าชายวัย 32 ปี ผู้ที่เคยมีความฝันว่าจะเข้ากองกำลังป้องกันเพื่อจำกัดไคจู (สัตว์ประหลาด)เคียงคู่กับ อาชิโระ มินะ เพื่อนในวัยเด็กของคาฟก้า ซึ่งทั้งสองได้เคยสัญญากันว่าจะร่วมกำจัดไคจูที่มาพังทำลายข้าวของ ตึกรามบ้านช่อง รวมถึงคร่าชีวิตผู้คนไปด้วยกัน ทว่าในความเป็นจริงนั้น มีเพียงมินะเท่านั้นที่สามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ เธอได้เป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกัน หน่วยที่ 3ในณะที่คาฟก้าเป็นเพียงพนักงานบริษัทเก็บกวาดซากไคจู มอนสเตอร์ สวีปเปอร์ (จำกัด) …
คาฟก้าเฝ้ามองมินะเสมอมา ถึงแม้จะพยายามปลอบใจตัวเองว่างานเก็บกวาดซากไคจูที่เขาทำอยู่ก็เป็นหนึ่งในงานที่มีส่วนสำคัญและทำประโยชน์ให้กับผู้คนได้มากมายเช่นกัน แต่ลึก ๆ ภายในใจของเขานั้นก็ยังอยากที่จะเข้ากองกำลังป้องกันเพื่อกำจัดไคจูเคียงคู่กับมินะแบบที่เคยสัญญากันไว้ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าคาฟก้าไม่พยายาม แต่เพราะความพยายามไม่ใช่เครื่องการันตีความสำเร็จ คนที่พยายามแต่ต้องพบกับความผิดหวังมาตลอดแบบคาฟก้าจึงเลือกที่จะทำใจยอมรับในความสามารถของตัวเองแล้วมาทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดซากไคจู กระทั่งเขาได้พบกับ อิจิคาวะ เรโน่ เด็กหนุ่มไฟแรงวัย 18 ปี ผู้ที่มีความใฝ่ฝันอย่างเต็มเปี่ยมที่จะเข้าไปเป็นกองกำลังป้องกันไคจู และจุดประกายให้คาฟก้าลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง! ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่เขาจะสามารถไล่ตามความฝันได้ ก่อนที่อายุจะเกินเกณฑ์การรับสมัคร
แต่แล้วเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เพราะคาฟก้าที่กำลังจะสอบเข้ากองกำลังป้องกันไคจู ดันกลายเป็นไคจูเองซะงั้น แบบนี้คาฟก้าจะสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้มั้ย จะถูกจับได้หรือไม่ จะโดนกำจัดหรือเปล่า ต้องรอติดตามต่อในอนิเมะ Kaiju no.8 กันนะคะ บอกเลยว่าเส้นทางการตามความฝันของคาฟก้าในครั้งนี้นั้นไม่ง่ายเลย มาร่วมเป็นกำลังใจให้คาฟก้าและเรโน่กันเยอะ ๆ นะคะ

ความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง
สิ่งที่ทำให้ Kaiju No.8 แตกต่างจากอนิเมะเรื่องอื่น ๆ คือ คาฟก้า พระเอกของเรื่องนี้อยู่ในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งหาได้ยากมากในอนิเมะโชเน็นปัจจุบันที่ตัวเอกมักจะเป็นเด็กอายุ 14-16 ปี ขณะที่คาฟก้าเป็นผู้ใหญ่วัย 32 ปี ที่เสมือนเป็นตัวแทนของคนวัยทำงานที่พยายามจะทำตามความฝันในตอนที่อายุมากแล้ว ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะรีเลทกับวัยทำงานหลาย ๆ คนที่อาจจะไม่สามารถทำตามความฝันในวัยเด็กของตัวเองได้ ซึ่งคาฟก้าทำให้เห็นว่าก็ยังไม่สายนะที่จะไล่ตามความฝัน ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นก็ต้องมาลุ้นกันในอนิเมะนะคะ ^^
อีกเรื่องที่เราชอบในอนิเมะเรื่องนี้คือการที่ คาฟก้า ทำงานเบื้องหลังอย่างการ เก็บกวาดซากไคจู ที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่างานนี้ไม่เท่ รวมถึงมองข้ามความสำคัญของงานแบบนี้ไป ซึ่งการที่ตัวเอกเป็นคาฟก้าทำให้เรารู้ว่างานเก็บกวาดซากไคจูก็มีความสำคัญไม่แพ้เหล่ากองกำลังป้องกันเลย นอกจากนี้ยังได้เห็นมุมมองของคนที่เป็นผู้ใหญ่ การปรับใช้ความรู้ ประสบการณ์จากการทำงานมาใช้ในการสู้กับไคจูอีกด้วย คาฟก้า เป็นคนเก่งและพยายามมาก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งมุมขี้เล่น ตลกเฮฮา แต่เวลาต้องจริงจังก็เป็นที่พึ่งของเด็ก ๆ ในเรื่องได้
ลายเส้น / ฉากแอคชั่น
ในส่วนของลายเส้นและการดีไซน์ตัวละครในอนิเมะนั้น จากใจคนที่อ่านมังงะ Kaiju No.8 มาก่อนก็คือแอบนอยนิดหน่อย ความเท่ ความสวยหล่อของตัวละครในอนิเมะนั้นเทียบไม่ได้กับในเล่มมังงะเลยค่ะ พูดกันตรง ๆ ว่าแอบเสียดายมากที่อนิเมเตอร์ดีไซน์ตัวละครในเวอร์ชั่นอนิเมะออกมาได้สวยไม่ถึงครึ่งของต้นฉบับเลย เรียกได้ว่าก็ทำใจยอมรับเรื่องลายเส้นนี้มานานก่อนอนิเมะจะฉาย ส่วนตัวเลยไม่ได้มีปัญหากับลายเส้นนี้ แต่ถ้าในอนาคตทำซีซั่น 2 ก็อยากให้ปรับคาร์แรคเตอร์ดีไซน์ใหม่นะ (ถ้าเป็นไปได้ 5555)
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฉากแอคชั่นและดีเทลงานอนิเมชั่นของเรื่องนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างพอใจเลย นอกจากนี้ในอนิเมะมีการเพิ่มรายละเอียดให้เรื่องสมูทมากขึ้นด้วย ภาพคือสวยเลย งานไม่เผา ติดแค่คาร์แรคเตอร์ดีไซน์ตัวละครไม่เท่เท่ามังงะแค่นั้น ในภาพรวมก็คือดีกว่าที่คิดไว้ตอนเห็นลายเส้นครั้งแรกด้วยซ้ำ ดังนั้นใครที่อ่านมังงะมาก่อนแล้วไม่กล้าดูอนิเมะคือ อยากให้ดูนะ ไม่ได้แย่เลยทุกคน ที่สำคัญคือพอเป็นเวอร์ชั่นอนิเมะแล้วได้ยินเสียงตัวละครในเรื่องด้วย พวกซีนโบ๊ะบ๊ะต่าง ๆ คือได้อรรถรสมาก ในมังงะว่าตลกแล้ว พอเป็นอนิเมะคือตลกกว่าเดิม 2 เท่าเลย!

เพื่อน ๆ สามารถรับชมเรื่องนี้ได้หลากหลายช่องทางเลย ไม่ว่าจะเป็น TrueID, Bilibili, iQiyi, YouTube ช่อง Ani-One Thailand (รับชมย้อนหลังฟรีเฉพาะเมมเบอร์) รวมทั้งแพล็ตฟอร์มล่าสุดอย่าง Live Streaming บน X (Twitter) @KaijuNo8_O ออกอากาศตอนใหม่ทุกวันเสาร์ค่ะ