หากนับนิ้วเฉพาะภาพยนตร์แอนิเมชันฉบับฉายโรงของวอลต์ ดิสนีย์เพียว ๆ ไม่เกี่ยวกับพิกซาร์ ‘Encanto’ จะตกฟากอยู่ลำดับที่ 60 พอดิบพอดีในระยะเวลา 84 ปีนับตั้งแต่วันฉายของ ‘Snow White and the Seven Dwarfs’ และด้วยกาลเวลาที่ผันผ่านก็ทำให้รูปรอยทั้งงานดีไซน์และไอเดียในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันเริ่มเปลี่ยนไปจากแนวสุขนิยมที่สอนใจเด็ก ๆ และกลายเป็นความทรงจำของผู้ใหญ่สู่การพูดถึงสังคมและการเมืองมากขึ้น
นับตั้งแต่ ‘Bambi’ ในปี 1942 ที่พูดถึงสันติภาพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การท้าทายค่านิยมบิวตีสแตนดาร์ดของสังคมด้วยการเปลี่ยนรูปลักษณ์เจ้าหญิงเป็นชาวแอฟริกัน อเมริกันใน ‘The Princess and the Frog’ (2009) มายันปัญหาสังคมระดับจุลภาคใน ‘Zootopia’ (2016) ไปพร้อม ๆ กับการท้าทายค่านิยมของสังคมเสมอมา แต่กับ ‘Encanto’ แล้วด้วยการวิวัฒน์ของสังคมที่เปิดกว้างจาการแผ้วถางทางของแอนิเมชันรุ่นพี่ประเด็นของมันเลยกลับมาพูดเรื่องครอบครัวอันเป็นวาระแห่งดิสนีย์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ทิ้งการทิ้งสัญญะว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสังค
หากมองผิวเผิน ‘Encanto’ ก็แทบจะมีพล็อตเรื่องไม่ได้แตกต่างจากแอนิเมชันสไตล์ดิสนีย์เหมือนที่ผ่าน ๆ มาอันว่าด้วยเด็กสาวที่ค้นพบความพิเศษในตัวเองที่ดิสนีย์พยายามจะโปรโมตจุดนี้มาโดยตลอดโดยเฉพาะผลงานระดับปรากฎการณ์โลกอย่าง ‘Frozen’ แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษขึ้นมาคือการนำเรื่องราวที่คุ้นเคยมาอยู่ในบริบทของสังคมการเมืองของโคลัมเบียหนึ่งในประเทศที่มีความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองจนติดอันดับประเทศที่มีการย้ายถิ่นฐานมากที่สุดในโลก
มันเลยทำให้ภารกิจปกป้องโลกเวทมนตร์ในหนังดูมีความหนักแน่นและในเวลาเดียวกันก็แอบแฝงการสะท้อนความเจ็บปวดของผู้คนอยู่ในทีได้อย่างแยบยลเพราะทั้งภูเขาที่ปิดล้อมและมนตราต่างๆ คือการมีเพื่อปกป้องชาวเมืองจากศัตรูที่จะเอาสงครามมาทำลายชีวิตของพวกเขาอีก รวมถึงการที่อาบัวล่าให้ค่ากับพลังพิเศษที่หลานๆ จะต้องคอยแก้ไขปัญหาชีวิตให้ชาวเมืองและต้องรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัวก็ยังทำให้เห็นถึงการแอบแฝงค่านิยมแบบชาวเบบีบูมเมอร์ที่พยายามตั้งกฎเกณฑ์และกำหนดกรอบให้เยาวชนทำตาม
และหากมองให้ลึกแล้วหนังยังให้ตัวละคร มีราเบล กับ อาบัวล่า ก็ยังเป็นตัวแทนของคนยุคเก่าและยุคใหม่ที่ปะทะความคิดกันอย่างน่าสนใจโดยฝ่ายแรกแทนค่าความคิดเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ได้สืบทอดคุณสมบัติอะไรจากคนรุ่นเก่าและทีละน้อยเธอยังตั้งคำถามกับค่านิยมที่ฝ่ายหลังพยายามปกป้องและหวงแหนรวมถึงการพิสูจน์ความจริงเรื่องข้อกล่าวหาที่ญาติ ๆ และชาวเมืองกล่าวหาบรูโน่อาที่หายสาบสูญของเธออีกด้วย ดังนั้นความสนุกอีกอย่างของ ‘Encanto’ ก็คือการค่อย ๆ ถอดตีความความสัมพันธ์และการแฝงการปะทะกันทางความคิดนี่แหละครับ
แต่ก่อนที่ผู้อ่านจะคิดว่า ‘Encanto’ เป็นแอนิเมชันการเมืองเครียด ๆ ผมคงต้องย้ำประโยคหัวเรื่องอีกสักทีเพราะเราเขียนว่า นี่มันแอนิเมชันสอดไส้บรอดเวย์ชัด ๆ ! ใช่ครับ..นี่แหละประเด็นที่เราจะพูดถึงและเน้นย้ำซึ่งหากใครได้ลองหาข้อมูลหนังมาบ้างจะรู้ว่าคนทำเพลงให้แอนิเมชันเรื่องนี้คือ ลิน-มานูเอล มิแรนดา (Lin-Manuel Miranda) ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบละครเวทีอย่าง ‘Hamilton’ (2020) และอยู่เบื้องหลังเพลงประกอบหนังและแอนิเมชันดิสนีย์มากมาย