รีวิวเกมส์ Tower of Fantasy

รีวิวเกมส์ Tower of Fantasy

เกมแนวโอเพ่นเวิลด์ไซไฟ RPG ที่เปรียบเสมือนบทกวีแห่งอนาคตอันไกลโพ้น ถูกหลอมรวมเข้ากับพลังของเทคโนโลยี ลมหายใจของโลกใบใหม่ และอารมณ์ของมนุษย์ที่ยังไม่ลืมความฝัน เกมนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Hotta Studio และเผยแพร่โดย Level Infinite ซึ่งกล้าท้าชนกับเกมระดับเรือธงอย่าง Genshin Impact ในด้านแนวคิด ระบบการเล่น และความงามของโลกในเกม

เมื่อเข้าสู่เกมผู้เล่นจะได้เหยียบย่างสู่ดาวเคราะห์ “Aida” อันห่างไกลจากโลก ที่ซึ่งวิทยาศาสตร์ได้กลายเป็นศาสนา และพลังงานจากวัตถุลึกลับที่เรียกว่า “Omnium” ได้เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตไปตลอดกาล เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อผู้เล่นสูญเสียความทรงจำ และต้องออกผจญภัยเพื่อค้นหาความจริงทั้งในอดีตของตนเอง และความลับอันดำมืดขององค์กรที่ปกครองดวงดาว

สิ่งที่ทำให้ Tower of Fantasy แตกต่างจาก เกมแนวโอเพ่นเวิลด์ ทั่วไป คือระบบการต่อสู้ที่ผสานความเร็ว ความอิสระ และการสลับอาวุธได้แบบเรียลไทม์ ผู้เล่นสามารถถืออาวุธ 3 ชนิดพร้อมกัน และสลับไปมาเพื่อใช้คอมโบและกลไก “Discharge” ที่เปรียบเสมือนท่าไม้ตาย พร้อมทั้งสามารถลอยกลางอากาศ โหนเหวี่ยง หรือแม้แต่ใช้ยานพาหนะเพื่อสำรวจโลกได้อย่างอิสระ

กราฟิกของเกมใช้เทคโนโลยี cel-shading ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของอนิเมะแนวไซไฟผสมแฟนตาซี เมืองลอยฟ้า ทะเลทรายอันเวิ้งว้าง ไปจนถึงฐานลับใต้ดินล้วนถูกออกแบบอย่างมีชีวิตชีวา รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างแสงสะท้อนในน้ำ ลมที่พัดหญ้าไหว หรือฝนที่โปรยปรายในยามค่ำคืนทำให้โลกของ Aida ไม่ใช่แค่ฉากหลัง แต่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายใจอยู่จริง

แม้ตัวเกมจะเริ่มต้นในลักษณะของประสบการณ์เล่นเดี่ยว แต่เกมนี้ได้หลอมรวมโหมดผู้เล่นหลายคนเข้าไว้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการลุยดันเจี้ยนร่วมกัน ลงบอสระดับโลก หรือแม้แต่การตั้งแคมป์กับเพื่อนในป่า ระบบ Co-op แบบอิสระนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถแบ่งปันประสบการณ์ สำรวจโลก หรือแม้แต่ต่อสู้เคียงข้างกันในแบบที่เกมโอเพ่นเวิลด์ RPG รุ่นก่อน ๆ ไม่เคยทำได้อย่างเต็มที่

จุดแข็งอีกด้านคือระบบ “Simulacra” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่สกินตัวละคร แต่คือ AI ที่มีบุคลิก ความคิด และอดีตของตัวเอง การปลดล็อก Simulacra ไม่ใช่แค่เพื่อพลังใหม่ แต่คือการเปิดหน้าต่างสู่โลกของตัวละครเหล่านั้น บางคนคือวีรบุรุษ บางคนคือเงาของโศกนาฏกรรม และบางคนอาจจะกลายเป็นคู่หูที่คุณไม่อยากห่างแม้แต่นาทีเดียว

อย่างไรก็ตามเกมนี้นั้นก็ไม่ได้ไร้ข้อบกพร่อง ระบบกาชาและการอัปเกรดที่ซับซ้อนอาจทำให้ผู้เล่นใหม่รู้สึกท้อในช่วงแรก เซิร์ฟเวอร์ที่บางครั้งมีปัญหา รวมถึงการบาลานซ์ระหว่างผู้เล่นสายฟรีกับผู้เติมเงินก็ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงอยู่เสมอ แต่หากคุณเปิดใจรับ และมองว่าเกมนี้คือการผจญภัยที่ต้องอาศัยเวลา ความใส่ใจ และจิตวิญญาณของนักสำรวจจะกลายเป็นโลกใบหนึ่งที่คุณอาจไม่อยากกลับออกมาอีกเลย

เกมนี้จึงไม่ใช่แค่ RPG หรือแค่ไซไฟ แต่มันคือการเดินทางระหว่างดวงดาว ที่ความเหงาของมนุษย์ได้พบกับความล้ำของอนาคต และเรื่องราวของคุณจะถูกเขียนขึ้นใหม่ในทุกรอยเท้าที่เดินผ่าน