“The Garfield Movie” อะไรกัน! นี่เราหยุดรอยยิ้มไม่ได้เลย

การ์ฟิลด์

กลับมาคราวนี้ เจ้าแมวส้มตัวป่วนจะชวนคุณผู้ชมมาพบกับความสนุกแบบเต็มอิ่มจุใจ ในหนังแอนิเมชัน The Garfield Movie เดอะ การ์ฟิลด์ มูฟวี่ การออกเดินทางครั้งใหม่ในรอบทศวรรษที่เต็มไปด้วยรสชาติแห่งความสุขแถมกอบโกยรายได้เปิดตัวในตลาดโลกแบบจุกๆ นี่จึงเป็นการปลุกกระแสแมวส้มให้กลับมาฮิตได้ไม่น่ายากพร้อมละเลงมุมมองใหม่ระหว่างการ์ฟิลด์และพ่อของเขาผ่านเรื่องราวอันแสนอลวนจนเราไม่สามารถหยุดรอยยิ้มได้เลยเป็นเรื่องราวของ การ์ฟิลด์ ในวันหนึ่งเขาได้พบกับวิค แมวจรจัดข้างถนนผู้เป็นพ่อของเขาหลังจากไม่ได้เจอกันเลยเป็นเวลานานหลายปีนั่นทำให้การ์ฟิลด์ และ โอดี้ จำต้องลาจาก จอน และบ้านอันแสนสุขสบายเข้ามาพัวพันกับอดีตแสนอันตรายพ่อของเขาพวกเขาจึงต้องลงเรือลำเดียวกันกับวิคในการผจญภัยสุดหินและการปล้นสุดหฤหรรษ์ที่เต็มไปด้วยการเสี่ยงอันตรายและความเฮฮาแบบไม่คาดคิด

เสิร์ฟความสนุกและเรียกรอยยิ้มจนถึงขั้นหัวเราะออกมาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเจ้าแมวส้มแสดงความป่วนแบบไม่มีพัก แม้ว่าจะพอมองพล็อตเนื้อหาและการดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ช่วงแรกแต่ด้วยความสนุกในมุกต่างๆ คาแรคเตอร์ของตัวละครมันจึงชวนให้เรามองผ่านและผ่อนคลายไปชั่วขณะซึ่งปมหลักๆ ของหนังแอนิเมชันที่เคยผ่านตามาบ้าง คงหนีไม่พ้นเรื่องครอบครัว ความฝันในชีวิตและมิตรภาพซึ่งนั่นก็มีให้เราได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้โดยการดำเนินเนื้อหาค่อนข้างมีชั้นเชิงระดับหนึ่งในแบบฉบับย่อยง่ายผูกปมปัญหาหลักของสองพ่อลูกและศัตรูตัวร้ายเอาไว้ได้แบบกระชับรวดเร็วและนำพาไปสู่การร้อยเรียงเรื่องราวการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความหรรษาทว่าในระหว่างนั้นมันมีอุปสรรคมาให้พ่อลูกได้แก้อคติและความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน แม้ว่านี่คือความธรรมดาที่เราได้เห็นมาบ่อยครั้ง แต่พอมาเจอกับความป่วนของ การ์ฟิลด์ โอดี้ และตัวละครอื่นๆ ทำให้มันผสมผสานความสนุก และเรียกรอยยิ้มออกมาได้อย่างกลมกล่อม

อีกทั้งสิ่งที่ชอบในบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือมีการเผยให้เห็นการเติบโต การเรียนรู้ และพัฒนาการของตัวละคร และยังมีบทสรุปของตัวละครที่จบลงได้อย่างสวยงาม เสริมสร้างให้บทมันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ทิ้งตัวละครใดให้จางหายไป นอกจากนี้ ยังได้ข้อคิดของการเป็นครอบครัวเดียวกัน การทำความเข้าใจกันและกันโดยไม่มองในแง่มุมเดียวเท่านั้น มันจึงเป็นโมเมนต์ที่ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลิน และเข้าถึงช่วงอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมา