ห่างหายจากการเขียน Review หนังไปยาวมากเลยครับเพราะระยะหลังไปดูหนังน้อยลงดูอยู่กับบ้านมากขึ้นและพักหลังนี้ไม่ค่อยมีหนังถูกใจเท่าไหร่แต่สำหรับเรื่องนี้อยากเขียนลงเพราะเป็นหนังที่ถูกใจรับต้นปีนี้เลยครับสำหรับ Megamind จอมวายร้ายพิทักษ์โลกหนัง Animation ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความเป็น 3D เท่านั้นเพราะหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ทำให้ประทับใจอย่างเหนือความคาดหวังเพราะเราถ้าพูดถึงหนัง SuperHero เราคงจะเห็นแนวเรื่องและสูตรสำเร็จที่ค่อนข้าจะเป็นแบบแผนกันในหนังประเภทนี้แต่สำหรับ MagaMind เป็นการพลิกสูตรสำเร็จของหนังซูเปอร์ฮีโร่และไม่ได้พลิกปรับสูตรสำเร็จเท่านั้น เรื่องของบทที่สอนได้อย่างแหลมคมเล่าเรื่องในมุมทีเปลี่ยนไปการกลับตัวร้ายกลายเป็นดีเป็นกุญแจหลักที่ทำให้ข้อคิดของหนังเรื่องนี้ถูกเล่าออกมาให้อย่างสมบูรณ์
สำหรับผมผมคิดว่านี่เป็นอีกก้าวของ DreamWork ที่เริ่มมีบทหนังที่ยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆในระยะหลังๆ จอมวายร้ายพิทักษ์โลก เป็นหนังที่มาถูกจังหวะในตลาดหนังช่วงนี้เพราะไม่มีคู่แข่งเป็นหนังครอบครัวที่ให้แง่คิดได้ดีที่เล่าเรื่องล้อเลียนตามสูตรของ Super Hero การมีตัวร้าย และ Super Hero การมีนางเอกตัวก่อกวนผู้ช่วยตัวร้ายแต่ในหนังกลับมีการสลับขั้วตัวร้ายกลายเป็นฝ่ายที่ก้าวผ่านชนะกำแพงอธรรม มาสู่ฝ่ายธรรมะได้ในที่สุดสิ่งที่ผมประทับใจในหนังเรื่องนี้คือเรื่องของแง่คิดการที่ตัวร้ายอย่าง ‘เมก้ามายด์ ที่สามารถเอาชนะ ‘เมโทร แมน’ ได้แต่ในที่สุดชัยชนะนั้นก็ไม่มีความหมายเมื่อสิ่งที่เกิดมาคู่กันเพื่อเติมเต็มหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ นั้นหายไป
ตรงนี้สอนให้เราเรียนรู้ในหลายๆเรื่องที่ช่วยให้เราได้แง่คิดในหลายๆ มุม การมองเห็นถึงความสำคัญของสิ่งที่สำคัญก็เมื่อตอนที่เสียมันไปแล้วหรือชีวิตที่ไม่มีอุปสรรคเลยมันช่างทำให้การใช้ชีวิตนั้นน่าเบื่อ ในตอนที่ เมโทร แมน เบื่อกับการเป็น Super Hero ที่ชนะตลอดกาลหรือแม้แต่เรื่องของการมองตัดสินคนจากสิ่งที่ทำมากกว่าสิ่งที่เห็น สำหรับผมแล้วหนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นมุมบวกของอุปสรรคต่างๆว่าจริงๆ แล้วมันมีเหตุผลของความเป็นอุปสรรคคือทำให้เราได้ท้าทายกับชีวิต หรือแง่บวกของการมีศัตรู เพราะทำให้เราก็เกิดเรียนรู้ที่จะเอาชนะและแข่งขัน ถือเป็นหนังที่แนะนำให้ดูทั้งครอบ ครัวและหยิบเรื่องราวเหล่านี้ไปสอนเด็กๆ ได้ดีทีเดียว