Game Night เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานความบันเทิงแบบเกมกระดานเข้ากับความระทึกแบบหนังอาชญากรรม และราดซอสตลกแบบพิลึกพิลั่นลงไปจนกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเวิร์กขนาดนี้ หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวธรรมดาของคู่รักสุดเป๊ะอย่างแม็กซ์ (Jason Bateman) และแอนนี่ (Rachel McAdams) ที่ชีวิตคู่ของพวกเขาผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับ “เกม” ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดเกมหรือเกมคืนนัดประจำกับกลุ่มเพื่อนสนิท ทุกอย่างเหมือนจะเล่นสนุกกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งที่เกม “จัดฉากลักพาตัว” กลายเป็นเหตุการณ์จริง และความปั่นป่วนทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นาทีนั้น
สิ่งที่ทำให้ หนังเรื่องนี้ โดดเด่นกว่า หนังคอมเมดี้ ทั่วไปคือความสามารถในการเล่นกับความจริงและความลวงได้อย่างลื่นไหล หนังชวนให้คนดูรู้สึก “เหมือนจะรู้” ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่คาดเดา มันกลับหักมุมด้วยจังหวะที่ฉลาดและไม่ฝืนจนเกินไป การวางโครงเรื่องจึงเต็มไปด้วยเลเยอร์ของความสนุก เหมือนกับการแกะกล่องปริศนาทีละชั้น ทีละเงื่อนงำ และเมื่อคนดูเริ่มมั่นใจว่าจับจุดได้แล้ว… หนังก็หันกลับมาตบหน้าเราเบา ๆ อย่างมีสไตล์

เคมีของ Jason Bateman กับ Rachel McAdams คือหัวใจของหนัง ทั้งคู่ไม่ได้แค่แสดงบทผัวเมียเล่นเกม แต่พวกเขาเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่กลมกลืนทั้งในฉากรัก ฉากทะเลาะ และฉากยิงปืนแบบบ้าระห่ำ Rachel ในบทแอนนี่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เล่นซีนตลกได้อย่างเป็นธรรมชาติและยังคงความน่ารักแบบไม่ฝืน เธอมีฉากหนึ่งที่ถือปืนอยู่กลางบาร์และพูดว่า “มันเป็นปืนของจริงเหรอเนี่ย?” พร้อมเสียงหัวเราะอึดอัด ๆ ที่ชวนให้คนดูทั้งลุ้นทั้งขำ มันคือซีนที่สะท้อนความเป็น เกมส์ไนท์ ได้ดีที่สุด ขำกลิ้งในขณะที่กำลังโดนไล่ล่า
องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างคือการกำกับที่มีสไตล์แบบ “เกมกระดาน” จริง ๆ หนังใช้เทคนิคภาพแบบ tilt-shift ให้ฉากบางฉากดูเหมือนโมเดลจิ๋วบนกระดาน เกมแห่งการไล่ล่าระหว่างรถ กล่องของรางวัลที่ใส่เพชร หรือฉากแฮ็กเข้าแมนชั่นหรู ล้วนถูกถ่ายทอดด้วยมุมมองของ “คนธรรมดาที่เข้าไปอยู่ในสถานการณ์เหนือจริง” และนั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้หนังทั้งเรื่องไม่เพียงสนุก แต่ยังแฝงกลิ่นอายของความแสบ
นอกจากความตลกแล้ว หนังยังมีบทแฝงบางอย่างเกี่ยวกับการเปรียบเทียบชีวิตกับเกม การแข่งขันในชีวิตคู่ ความไม่มั่นคงของความสัมพันธ์ และความต้องการยอมรับในครอบครัว ตัวละครของแม็กซ์ที่รู้สึกด้อยกว่า “บรู๊คส์” พี่ชายสุดเพอร์เฟกต์ (รับบทโดย Kyle Chandler) ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของธีมหลักที่หนังค่อย ๆ คลี่ให้เห็นว่าท้ายที่สุดแล้ว… เกมที่ยากที่สุดอาจไม่ใช่การเอาชนะคนอื่น แต่คือการเอาชนะความกลัวในใจตัวเอง
อีกตัวละครที่ขโมยซีนแบบเหนือความคาดหมายคือ “แกรี่” ตำรวจเพื่อนบ้านจิต ๆ ที่โดนตัดขาดจากกลุ่มเกม เพราะความ “ไม่ฮา” ของเขา แต่ทุกครั้งที่เขาโผล่มา หนังก็กลายเป็นหนังแนวจิตวิทยาแบบหน้าตายที่พาคนดูสะพรึงเบา ๆ ได้ทุกครั้ง บทของเขาถูกวางไว้เฉียบคมและกลายเป็นจุดพีคที่หักมุมได้ดีที่สุดตอนท้ายเรื่อง
สรุปแล้ว เกมส์ไนท์ คือ หนังคอมเมดี้ ที่มีลูกเล่นเฉียบ มีจังหวะตลกที่ไม่งี่เง่า และมีความเป็นหนังลุ้นระทึกที่พาคนดูติดเบาะไปจนจบ มันคือการเล่นเกมที่ไม่ได้ใช้แค่ไพ่หรือลูกเต๋า แต่ใช้หัวใจของตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และบทที่เขียนมาอย่างชาญฉลาดพาให้เราหัวเราะในสถานการณ์ที่ไม่ควรขำได้อย่างน่าทึ่ง
และถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเกม ชอบหัวเราะ และชอบหนังที่ไม่ตามสูตรสำเร็จ Game Night คือคืนแห่งความวายป่วงที่คุณไม่ควรพลาด