รีวิวอนิเมะ Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูร

รีวิวอนิเมะ Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูร

ถ้าคุณเคยผ่านหูผ่านตาเรื่อง Demon Slayer (หรือชื่อไทยว่า “ดาบพิฆาตอสูร”) แล้วลังเลว่าจะดูดีไหม หรือแค่งานภาพสวยแต่เนื้อเรื่องไม่มีอะไร ผมขอบอกว่า…อย่าเพิ่งตัดสินแค่จากภาพโปสเตอร์ครับ เพราะเบื้องหลังความอลังการของฉากต่อสู้และสีสันสดใสของตัวละคร มันมีอะไรที่ “มากกว่านั้น” ซ่อนอยู่ และผมเองก็เป็นคนนึงที่ตอนแรกก็คิดว่า แค่อนิเมะขายภาพ แต่พอดูแล้วกลับโดนลากเข้าไปแบบไม่รู้ตัวเลยจริงๆ

เรื่อย่อ

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันค่อนข้างธรรมดานะครับ เด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ทันจิโร่ ออกไปขายถ่าน กลับบ้านมาก็พบว่าครอบครัวโดนปีศาจสังหารหมด เหลือแค่น้องสาว เนซึโกะ ที่ยังมีชีวิต…แต่กลายเป็นปีศาจไปแล้ว และจากตรงนั้นแหละที่เรื่องราวมันเริ่มพีคขึ้นเรื่อยๆ เพราะทันจิโร่ไม่ยอมแพ้ เขาตัดสินใจเป็น “นักล่าอสูร” เพื่อหาทางคืนร่างมนุษย์ให้น้องสาว พร้อมกับล้างแค้นให้ครอบครัวไปด้วย

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือการสร้างอารมณ์ร่วมของเรื่องนี้ เขาไม่ได้เร่งให้เราอินเร็วเกินไป แต่ค่อยๆ สร้างความผูกพันระหว่างพี่น้อง ความอบอุ่นเล็กๆ ที่โผล่มาในโลกที่โหดร้าย ผสมกับพลังของ “ความเมตตา” ที่ทันจิโร่มี แม้แต่กับศัตรูที่เป็นปีศาจก็ยังทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเข้าใจในจิตใจมนุษย์ที่ลึกซึ้งจริงๆ

นอกจากเนื้อเรื่องจะโดนใจแล้ว สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยคือ ระบบขององค์กรนักล่าอสูร ที่ดีไซน์มาชัดเจนและน่าสนใจมากครับ คนที่จะเข้าเป็นสมาชิกต้องผ่าน “Final Selection” อยู่รอดในป่าที่เต็มไปด้วยปีศาจ 7 วันโดยไม่มีตัวช่วย ฟังดูโหดร้ายแต่มันคือบทพิสูจน์จริงๆ ว่าใครจะมีจิตใจเข้มแข็งพอจะต่อกรกับปีศาจพวกนี้

หลังจากเข้าร่วมได้แล้วก็ต้องไต่เต้าจากยศ Mizunoto ซึ่งเป็นระดับล่างสุด แล้วค่อยๆ สะสมผลงานไปจนถึง Hashira หรือเสาหลัก ที่เท่มากทั้งพลังและบุคลิก แต่ละคนก็จะมี “ลมหายใจ” หรือ Breathing Style ที่เป็นเหมือนศาสตร์การต่อสู้เฉพาะตัวเช่น ลมหายใจเพลิง ลมหายใจน้ำ ฯลฯ ซึ่งทำให้ฉากต่อสู้ออกมาทั้งเท่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

และที่ผมชอบมากอีกอย่างคือดาบ Nichirin Sword ที่แต่ละเล่มมีสีแตกต่างกันตามตัวตนของผู้ใช้ มันไม่ใช่แค่ของเท่ๆ แต่มันสื่อถึงจิตวิญญาณของตัวละครเลยครับ อย่างของทันจิโร่ก็เป็นสีดำ ซึ่งหายากและมีความหมายที่น่าสนใจ (แถมคนถือดาบดำส่วนใหญ่…ไม่รอดไปเป็น Hashira ด้วยนะ)

ในด้านงานภาพก็ไม่ต้องพูดเยอะครับ ufotable ทำออกมาโคตรดี ฉากต่อสู้ลื่นไหล สีจัดแสงฉากดีมาก เรียกได้ว่า “ดูเพราะภาพ” ยังไงก็ไม่ผิดครับ แต่พอดูไปก็จะเริ่ม “ดูเพราะใจ” เพราะเนื้อเรื่องก็ค่อยๆ พาเราไหลตามทันจิโร่แบบไม่รู้ตัว
ส่วนตัวผมนี่เป็นอีกเรื่องที่พอดูจบตอนแรกแล้วก็รู้เลยว่า “ไม่ธรรมดา” ครับ ไม่ใช่แค่เพราะต่อสู้มันส์หรือตัวละครน่ารัก (ถึงเนซึโกะจะน่ารักจริงๆ เถอะนะ…) แต่เพราะ Demon Slayer เป็นเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกได้ถึง “คุณค่าของการไม่ยอมแพ้” และ “การเข้าใจหัวใจของคนอื่น” มันมีความเป็นมนุษย์สูงมาก ในโลกที่เต็มไปด้วยปีศาจ

นี่แหละคือเสน่ห์ที่ทำให้ผมติดตามต่อจนจบซีซั่น แถมยังตามดูต่อในภาค Mugen Train จนไปถึง Entertainment District Arc แบบไม่พักเลยครับ สำหรับใครที่ยังลังเลจะดู ผมว่าลองสักตอนสองตอน แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงยกให้ Demon Slayer เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ควรดูสักครั้งในชีวิต