บทใหม่ของซีรีส์ ล่ามอนสเตอร์ อันยิ่งใหญ่ที่แฟน ๆ ทั่วโลกรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ โดยในภาคนี้ Capcom ได้ผลักดันขอบเขตของเกมเพลย์และโลกในเกมให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของภาคก่อนหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกย่างก้าวในโลกของ เกมนี้นั้น เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้เหยียบย่างเข้าสู่ระบบนิเวศที่มีชีวิตจริง ๆ พื้นที่อันกว้างใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างพลิกผันตามสภาพอากาศและเวลาทำให้โลกในเกมดูมีพลวัต สมจริง และท้าทายมากกว่าที่เคย
ภาพแรกที่ปรากฏเมื่อเข้าสู่เกมคือทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของทะเลทรายที่เหมือนจะนิ่งงัน ทว่าภายในความเงียบสงบนั้นกลับเต็มไปด้วยชีวิตนานาชนิด ทั้งมอนสเตอร์ตัวเล็กตัวน้อยที่เดินผ่านไปมาอย่างอิสระ และสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ที่เคลื่อนไหวอย่างสง่างามในระยะไกล ทุกสายตา ทุกอารมณ์ ทุกเสียงลมที่พัดผ่าน ล้วนส่งมอบความรู้สึกถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ตลอดเวลา โลกนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับผู้ล่าที่ประมาท หากแต่เป็นสนามทดสอบความสามารถ ความอดทน และสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดอย่างแท้จริง

สิ่งที่ทำให้ Monster Hunter Wilds โดดเด่นเหนือภาคก่อนหน้า คือการนำเสนอโลกที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง ไม่มีการโหลดฉาก ไม่มีเส้นแบ่งโซน ผู้เล่นสามารถไล่ล่ามอนสเตอร์ข้ามภูมิประเทศได้อย่างลื่นไหล ตั้งแต่ทุ่งหญ้าไปจนถึงเนินทรายที่พลิกเปลี่ยนได้ตามพายุ ทุกรายละเอียดของสภาพแวดล้อมไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามทางสายตา แต่ยังมีผลโดยตรงต่อการล่า พายุทรายอาจบดบังทัศนวิสัย หรือพายุฝนอาจทำให้พื้นที่เปียกลื่น เพิ่มความท้าทายในการเคลื่อนไหวและวางแผนการโจมตี
ระบบการต่อสู้ยังคงรักษาความหนักแน่นและความแม่นยำของซีรีส์ไว้อย่างเหนียวแน่น แต่เพิ่มความลื่นไหลและความซับซ้อนในการเคลื่อนไหวของนักล่า ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องมือล่าสมัยใหม่ เช่น ตะขอเกี่ยวรุ่นใหม่ที่ช่วยให้ปีนป่ายหน้าผา หรือโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างกับดักธรรมชาติในการต่อสู้ได้อย่างสร้างสรรค์ ชุดอาวุธในภาคนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความหลากหลายและรูปแบบการโจมตีที่ไหลลื่นกว่าเดิม แต่ละชิ้นให้สัมผัสและสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่นักดาบหนักที่ฟาดฟันอย่างช้า ๆ แต่ทรงพลัง ไปจนถึงนักธนูที่ว่องไวและแม่นยำในระยะไกล
มอนสเตอร์ใน Wilds ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันทั้งรูปลักษณ์ พฤติกรรม และรูปแบบการต่อสู้ ไม่มีศัตรูตัวใดที่เหมือนกัน แม้แต่ในสายพันธุ์เดียวกัน พวกมันมีปฏิกิริยาโต้ตอบต่อโลกและผู้เล่นแตกต่างกันไป บางตัวอาจเป็นนักล่าที่ไร้ปรานี ในขณะที่บางตัวกลับเป็นสัตว์ที่หลบซ่อนและขี้กลัว การทำความเข้าใจนิสัยของมอนสเตอร์จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนการล่า ไม่ใช่แค่ฝีมือการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสังเกต พิจารณา และการรู้จักเลือกจังหวะอย่างชาญฉลาด
เกมนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างเรื่องราวส่วนตัวของผู้เล่น ผ่านภารกิจและการค้นพบที่ไม่ได้ถูกกำหนดตายตัว ทุกการเผชิญหน้า ทุกชัยชนะ หรือแม้แต่ความพ่ายแพ้ ล้วนแต่กลายเป็นเรื่องเล่าของการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ที่ผู้เล่นเป็นผู้กำหนด ด้วยโลกที่สวยงาม ร้ายกาจ และเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาเช่นนี้ เกมนี้จึงไม่ใช่เพียงเกมอีกภาคหนึ่งในซีรีส์ หากแต่เป็นวิวัฒนาการขั้นใหม่ที่ท้าทายความสามารถและจินตนาการของผู้เล่นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน