Fight for My Way คือหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่แม้จะไม่ได้มีเนื้อหาหวือหวา แต่กลับสามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยเรื่องราวของคนธรรมดาที่ต้องต่อสู้กับความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต เพื่อวิ่งตามความฝันและความรักที่แท้จริง ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศในปี 2017 ทางช่อง KBS2 นำแสดงโดย พัคซอจุน และ คิมจีวอน ซึ่งทั้งคู่ถ่ายทอดบทบาทได้อย่างมีเสน่ห์จนกลายเป็นหนึ่งในคู่จิ้นแห่งปี
เรื่องราวของ Fight for My Way ติดตามชีวิตของ “โกดงมัน” ชายหนุ่มที่เคยเป็นนักกีฬาเทควันโดดาวรุ่ง แต่ต้องทิ้งความฝันกลางทาง และหันมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับงานพนักงานกำจัดแมลง ส่วน “ชเวแอรา” เพื่อนสนิทของเขาในวัยเด็ก ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว แต่กลับต้องมาทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ในห้างสรรพสินค้า ทั้งสองคนรวมถึงเพื่อนสนิทอีกสองคน ล้วนใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางที่ดูธรรมดา ไม่มีแสงสีของความสำเร็จ แต่เต็มไปด้วยความพยายามและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
จุดเด่นของซีรีส์คือการเล่าเรื่องแบบเรียลๆ สมจริง ไม่ขายฝันจนเกินไป แต่แสดงให้เห็นว่าแม้คนธรรมดาจะเจออุปสรรคแค่ไหน ก็สามารถยืนหยัดและเดินหน้าต่อได้หากมีใจที่สู้ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสี่คน โดยเฉพาะมิตรภาพระหว่างดงมันกับแอรา เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้ชมอย่างมาก ความรักที่ค่อยๆ เติบโตจากความผูกพันในวัยเด็กไปสู่ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งนั้น ถ่ายทอดออกมาอย่างน่ารัก ซึ้ง และมีอารมณ์ขันในแบบที่เป็นธรรมชาติ
เคมีนักแสดงและการสะท้อนสังคมในแบบที่เข้าถึงใจคนดู
ความสำเร็จของ Fight for My Way ไม่ได้เกิดจากบทที่ดีเท่านั้น แต่ยังมาจากเคมีที่ลงตัวระหว่างนักแสดง โดยเฉพาะ พัคซอจุน กับคิมจีวอน ที่เล่นบทเพื่อนรักที่กลายเป็นคนรักได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีทั้งความฮา ความเขิน และความอบอุ่นในแบบที่ไม่ประดิษฐ์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เห็นชีวิตของคนจริงๆ มากกว่าตัวละครในซีรีส์ การแสดงของทั้งสองคนเต็มไปด้วยรายละเอียดทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นฉากทะเลาะ ฉากให้กำลังใจ หรือฉากสารภาพรัก ล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่จับต้องได้
นอกจากเรื่องของความฝันและความรัก ซีรีส์ยังสะท้อนปัญหาสังคมเกาหลีในกลุ่มคนวัยทำงานได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาที่ไม่ได้นำไปสู่งานในฝัน ระบบที่เลือกปฏิบัติในองค์กร หรือความกดดันจากครอบครัวและสังคมที่คาดหวังให้ประสบความสำเร็จในแบบที่ตนเองไม่ต้องการ ทุกประเด็นเหล่านี้ทำให้ผู้ชมหลายคนรู้สึกว่า Fight for My Way ไม่ใช่แค่ ซีรีส์รักโรแมนติก แต่เป็นเรื่องราวของการใช้ชีวิตจริงๆ ที่คนทั่วไปสามารถสะท้อนตัวเองออกมาได้
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจคือจังหวะการเล่าเรื่องที่ลงตัว มีอารมณ์ขันแทรกอยู่ตลอด ทำให้ซีรีส์ไม่เครียดจนเกินไป ทั้งยังมีดนตรีประกอบที่เข้ากับบรรยากาศในแต่ละฉาก ช่วยเสริมอารมณ์ให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก เป็นซีรีส์ที่สามารถดูได้แบบไม่ต้องคาดหวังอะไรใหญ่โต แต่กลับมอบพลังบวกและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมอย่างเต็มเปี่ยม
โดยรวมแล้ว Fight for My Way เป็นซีรีส์ที่เหมาะกับคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิต หรือคนที่รู้สึกว่าตนเองยังไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง เพราะมันจะทำให้คุณรู้ว่าทุกคนมีทางเดินของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปเทียบกับใคร ขอแค่ไม่หยุดฝันและไม่ยอมแพ้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับ “การต่อสู้ในแบบของฉัน”