กลายเป็นอีกหนึ่ง ซีรีส์เรื่องเล็ก ๆ ที่ฟอร์มดีจากอังกฤษที่กำลังเป็นที่พูดถึงในเวลานี้”Adolescence วัยลน คนอันตราย” มินิซีรีส์ แนวดรามา อาชญากรรม ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นและสไตล์ที่มีการเล่าเรื่องด้วยเทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Takes ที่กลายเป็นการถ่ายทอดมุมมองการสืบสวนสอบสวนที่จัดจ้านและค่อย ๆ ดำดิ่งอยู่เบื้องลึกจิตใจของมนุษย์ทุกตัวละครอย่างคาดไม่ถึง
Adolescence วัยลน คนอันตราย เล่าเรื่องราวของ เจมี เด็กชายอายุ 13 ที่กำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นวัยคะนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกจู่โจมเข้าจับกุมตัวเขาถึงที่บ้านในช่วงเช้าตรู่วันหนึ่ง เนื่องจากเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการก่อเหตุกระหน่ำแทงนักเรียนหญิงเพื่อนร่วมรุ่นที่โรงเรียนเดียวกันจนถึงแก่ความตาย ทำให้เขาต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการสืบสวนที่เข้มข้น แม้ว่าจะเป็นผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ความผิดของเขาอุกอาจเกิดกว่าที่กฎหมายจะละเว้นให้ได้
มินิซีรีส์แค่ 4 ตอนที่กัดกินใจได้ทุกซีน
ซีรีส์ Adolescence เป็นแค่ มินิซีรีส์ จำนวนแค่เพียง 4 ตอน แต่สามารถพาคนดูไปสำรวจในแง่มุมต่าง ๆ ของกระบวนการสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสของ อาชญากรรมเด็ก ที่เกิดขึ้นอย่างจัดจ้าน โดยในแต่ละตอนของซีรีส์เรื่องนี้ได้แบ่งพาร์ทการสำรวจตัวละครในมุมต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ค่อย ๆ นำมาประกอบเป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์ในที่สุด แม้ว่าในแต่ละตอนจะนำเสนอซีนหลักแค่ซีนเดียวแบบแช่เอาไว้ แต่ก็สามารถเกลี่ยอรรถรสได้อย่างครอบคลุม ผ่านฝีมือของผู้จัด “แจ็ค ธอร์น” (จากซีรีส์ The Last Panthers) ที่รับหน้าที่สร้างและเขียนบทซีรีส์เรื่องนี้

เทคนิค One Shot เฉียบคมและจัดจ้าน
“ฟิลิป บาแรนตินี” ผู้กำกับจาก มินิซีรีส์ เรื่องดัง Boiling Point เมื่อไม่กี่ปีก่อน มารับหน้าที่ควบคุมงาานสร้างให้กับเรื่องนี้ โดยเขาได้ใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบ One Shot ที่เป็นการรันกล้องถ่ายทำไปแบบต่อเนื่องยาว ๆ ที่ทำให้เนื้อหาของซีรีส์ใน 1 ตอนนั้นต่อเนื่องกันเป็นซีนเดียวกันตลอดทั้งชั่วโมงแบบถึงแก่นถึงอารมณ์ และนั่นก็กลายเป็นอีกเสน่ห์ที่โดดเด่นและชวนประทับใจของซีรีส์เรื่องนี้ ที่กลายเป็นความท้าทายในแง่องค์ประกอบงานสร้างทุก ๆ ด้าน ที่ต้องรันคิวงานให้ได้โฟลว์ที่สุด ไร้รอยต่อ และไม่ให้มีการสะดุดได้
การแสดงน่าทึ่งของดาวรุ่งเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม
“สตีเฟ่น เกรแฮม” นักแสดงรุ่นใหญ่ชื่อดังจากอังกฤษ ที่นอกจากจะมาร่วมแสดงนำในเรื่องนี้แล้ว เขาก็ยังรับหน้าที่เป็นผู้จัดร่วมและร่วมเขียนบทซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เขาภาคภูมิใจนำเสนอ และเขาก็ยังปล่อยพลังทางการแสดงออกมาได้อย่างพรั่งพรู กลายเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีชของเขาได้แบบสบาย ๆ ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพรับมือกับการถ่ายทอดแบบลองเทคส์ยาว ๆ
และดูเหมือนว่า ซีรีส์ Adolescence จะได้ทำการแจ้งเกิดให้กับดาวดวงใหม่อย่างเจิดจ้าขึ้นแล้ว เพราะการแสดงของนักแสดงเด็กหน้าใหม่”โอเวน คูเปอร์”ที่เป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกในชีวิตของเขา เขาสามารถรับมือกับซีรีส์ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาหนักอึ้งได้อย่างชวนทึ่ง โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับไดอะล็อกมหาศาลระหว่างการถ่ายทำแบบไม่มีคัท ในซีนที่ต้องร่ายบทยาว ๆ ไปตลอดชั่วโมงเต็ม เขาได้สร้างความน่าอัศจรรย์ในการแสดงออกมาได้อย่างชวนว้าว ทั้งที่เป็นมือใหม่ที่ยังไม่มีชั่วโมงบินในการแสดงเลยก็ตาม
ส่องสะท้อนทุกแง่มุมที่พร้อมแตกสลาย
ในท้ายที่สุดแล้ว ซีรีส์ Adolescence เรื่องนี้ก็สามารถสื่อสารถึงคนดูได้อย่างทรงพลัง แม้ว่าจะมีแอร์ไทม์แค่เพียง 4 ตอนสั้น ๆ เท่านั้น แต่ก็สามารถส่องสะท้อนแง่มุมต่าง ๆ ถึงสังคมได้อย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะประเด็นสถาบันครอบครัวและการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีใกล้ตัวทุกคนแค่มือเอื้อม นี่คือคอนเทนท์ที่หวังจะเป็นไฟส่องสว่างให้ได้ฉุกคิดถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในทุกวันนี้

สถาบันครอบครัวก็คือปราการด่านแรกและด่านสำคัญในการฟูกฟักผลผลิตของมนุษยชาติ เพราะเชื่อว่าทุกครอบครัวต่างก็มีความมุ่งหวังจะเลี้ยงดูลูกหลานของตนเองออกมาให้ได้ดีที่สุด ดั่งวลีเด็ดที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ ที่ว่า “ลูกฉันเป็นคนดี” แต่ก็ใช่ว่าคนเป็นพ่อแม่จะสามารถเฝ้าจับตาและสอดส่องให้คำสอนลูก ๆ ได้ในทุกเวลา
พ่อแม่ไม่มีทางรู้เลยว่าลูกไปทำอะไรมา ญาติพี่น้องไม่อาจทราบด้วยซ้ำว่าสมาชิกในบ้านกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ ดังนั้นการเอาใจใส่ใจซึ่งกันและกันเท่านั้นที่เป็นตัวเชื่อมที่เข้มแข็งที่สุดภายในครอบครัว เพราะถ้าหากมันถึงจุดที่สายเกินกว่าแก้ไปแล้ว ทุกอย่างก็พร้อมจะแตกสลายลงไปในพริบตา เหมือนกับที่ซีรีส์ Adolescence เรื่องนี้ต้องการสื่อออกมา..