Doctor Slump (หัวใจหมอไม่มอดไหม้) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอเมดี้ผสมดราม่า ที่เล่าเรื่องของชีวิตแพทย์หนุ่มสาวที่เคยประสบความสำเร็จสูงสุด แต่กลับต้องเผชิญกับวิกฤตชีวิตครั้งใหญ่จนหล่นจากจุดสูงสุดลงมาสู่จุดตกต่ำแบบไม่ทันตั้งตัว ซีรีส์เรื่องนี้ได้ พัคฮยองชิก และ พัคชินฮเย มารับบทนำ ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ยอจองอู” และ “นัมฮานึล” อดีตเพื่อนร่วมชั้นมัธยมที่กลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงชีวิตที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกพังทลาย
ยอจองอูเป็นศัลยแพทย์ดาวรุ่งที่กำลังไปได้ดีในอาชีพ แต่กลับถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุร้ายแรงจนสูญเสียชื่อเสียงและอนาคตไปในพริบตา ส่วนนัมฮานึล แพทย์ด้านวิสัญญีวิทยาที่แบกรับความกดดันจากครอบครัวมาตลอดชีวิตจนเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งสองได้กลับมาเจอกันในช่วงที่ทั้งคู่ตัดสินใจพักรักษาใจ และต่างกลายเป็นแรงสนับสนุนให้กันและกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เนื้อเรื่องของซีรีส์เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นมนุษย์จริงๆ ที่ทั้งเหนื่อย ท้อ ล้มเหลว และสับสน ความโรแมนติกของคู่พระนางไม่ได้เร่งรีบหรือฉาบฉวย แต่ค่อยๆ เติบโตจากความเข้าใจในกันและกัน ผ่านบทสนทนาและเหตุการณ์ที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นใจ รวมถึงหัวเราะไปกับมุกตลกที่แทรกเข้ามาอย่างพอดี
ซีรีส์นี้สามารถถ่ายทอดบรรยากาศของ “การหยุดพักเพื่อฟื้นฟูชีวิต” ได้อย่างดีเยี่ยม และยังชี้ให้เห็นว่าแม้ชีวิตจะเจ็บปวดแค่ไหน การได้พบใครสักคนที่เข้าใจเราจริงๆ ก็อาจเพียงพอที่จะจุดประกายให้ลุกขึ้นมาเดินต่อได้อีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นของสุขภาพจิต ความคาดหวังของสังคม และแรงกดดันจากความสำเร็จที่ถูกปลูกฝังมาในวัยเด็ก ล้วนถูกนำเสนอด้วยความเข้าใจและลึกซึ้ง
เคมีนักแสดงและการเล่าเรื่องที่ทั้งขำ ทั้งซึ้ง และมีความหวัง

สิ่งที่ทำให้ Doctor Slump หัวใจหมอไม่มอดไหม้ โดดเด่นเหนือซีรีส์แนวโรแมนติกทั่วไป คือการแสดงของนักแสดงนำทั้งสองคน พัคฮยองชิก ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้ชายที่ภายนอกดูเข้มแข็งแต่ภายในอ่อนแอได้อย่างชัดเจน ขณะที่พัคชินฮเยก็กลับมาในบทบาทที่เต็มไปด้วยมิติหลังจากห่างหายจากจอไปนาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในเรื่องนี้มีทั้งมุมขบขัน ความเขินอาย และช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างพากันเยียวยาหัวใจอย่างแสนอบอุ่น
นอกจากนี้ การใช้ภาพและเสียงในเรื่องยังช่วยส่งเสริมอารมณ์ได้ดี เพลงประกอบที่เลือกมาใช้นั้นสอดคล้องกับอารมณ์ของแต่ละฉากอย่างลงตัว ขณะที่การถ่ายทำให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสบายตา ไม่เร่งเร้าเกินไป ไม่หม่นหมองจนดูหดหู่
แม้จะมีประเด็นหนักๆ อย่างความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือการถูกกลั่นแกล้งในวิชาชีพ แต่ซีรีส์ก็ไม่ปล่อยให้เรื่องราวจมอยู่กับความมืดมนอย่างเดียว ตรงกันข้าม มันกลับเป็นซีรีส์ที่ให้พลังบวก เป็นกำลังใจสำหรับคนที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองอยู่ใน “ช่วงตกต่ำ” เพราะ Doctor Slump ทำให้เห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ และบางครั้งการยอมรับว่าเราเหนื่อยก็ไม่ใช่ความอ่อนแอ
โดยรวม Doctor Slump เป็นซีรีส์ที่ครบรส ทั้งตลก ซึ้ง อบอุ่น และให้กำลังใจในแบบที่ไม่ฝืนความเป็นจริง เหมาะสำหรับคนที่กำลังเหนื่อยล้าในชีวิตและต้องการซีรีส์ที่เยียวยาหัวใจอย่างแท้จริง