Hay Day คือเกมแนวจำลองการทำฟาร์ม (Farm Simulation) ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 โดยค่าย Supercell ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมชื่อดังอย่าง Clash of Clans และ Clash Royale ด้วยกราฟิกสีสันสดใส สไตล์การ์ตูนที่เป็นมิตร และระบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่มีความลึกในรายละเอียด ทำให้เกมนี้นั้นกลายเป็นหนึ่งในเกมฟาร์มยอดนิยมตลอดกาลบนมือถือ
จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมฟาร์มอื่น ๆ คือรูปแบบการเล่นที่ไม่เร่งรีบ ผู้เล่นสามารถพัฒนาฟาร์มได้ตามจังหวะของตัวเอง โดยไม่ต้องกลัวว่าอะไรจะพังหรือพืชจะตาย การปลูกพืชผัก เก็บเกี่ยวผลผลิต เลี้ยงสัตว์ ทำอาหาร และแลกเปลี่ยนสินค้ากับเพื่อนบ้าน ถูกออกแบบให้เล่นเพลินได้เรื่อย ๆ ไม่มีความเครียด
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือระบบตลาดในเกม ผู้เล่นสามารถขายของให้กับผู้เล่นคนอื่นผ่านแผงขายของหน้าฟาร์ม หรือจัดส่งสินค้าตามออเดอร์ของลูกค้าในกล่องจดหมายและรถบรรทุก ระบบนี้ทำให้เกมดูมีชีวิตชีวาและสร้างรายได้ให้กับผู้เล่นเพื่อนำไปขยายกิจการฟาร์มต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถเปิดเหมือง ทำผลิตภัณฑ์แปรรูป และสร้างเมืองเล็ก ๆ ที่รองรับนักท่องเที่ยว เพิ่มมิติของการเล่นให้กว้างขึ้นอีกมาก
โดยเกมนี้ยังมีระบบ “เพื่อนบ้าน” หรือคลับให้ผู้เล่นรวมกลุ่มกันแลกเปลี่ยนของ ช่วยเหลือกัน และร่วมกิจกรรมพิเศษ ทำให้เกมไม่โดดเดี่ยวจนเกินไป นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นหลายคนสามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องเป็นปี ๆ โดยไม่เบื่อ เพราะมีทั้งเป้าหมายเฉพาะตัวและปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอื่นที่ชวนให้ติดตาม
ความเหมาะสมและข้อควรพิจารณาในการเล่น Hay Day
แม้ว่า Hay Day จะเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ชอบแนวเกมที่ไม่เร่งรัดและมีความผ่อนคลาย แต่ผู้เล่นควรเข้าใจว่าเกมนี้เป็นแบบ “free-to-play” หรือเล่นฟรี แต่มีระบบซื้อของในเกม (in-app purchases) เพื่อเร่งการผลิตหรือขยายพื้นที่ การจัดการทรัพยากรจึงเป็นหัวใจสำคัญ หากไม่วางแผนให้ดีอาจรู้สึกว่าต้องรอนานเกินไปหรือติดขัดในบางช่วง
เกมใช้เวลาในการสร้างและผลิตสินค้าค่อนข้างสมจริง เช่น ขนมปังอาจใช้เวลาไม่กี่นาที ส่วนพิซซ่าอาจใช้เป็นชั่วโมง ทำให้เกมเหมาะกับการเล่นเป็นช่วง ๆ ระหว่างวัน มากกว่าการนั่งเล่นยาวตลอดเวลา จุดนี้อาจเป็นข้อดีสำหรับคนที่ไม่อยากใช้เวลากับเกมมากเกินไป แต่ก็อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับคนที่ชอบเกมจบเร็วหรือมีภารกิจรายวันชัดเจน
อีกประเด็นที่ควรพูดถึงคือไม่ใช่เกมที่มีเนื้อเรื่องหรือจุดจบ ผู้เล่นจะอยู่ในวงจรของการปลูก เก็บ ขาย และขยายไปเรื่อย ๆ ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ต้องการ “เป้าหมายสุดท้าย” หรือการปลดล็อกเรื่องราว การเล่นเกมอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณชอบเกมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการเล่นคลายเครียด หรืออยากมีฟาร์มเสมือนที่พัฒนาได้เรื่อย ๆ เกมนี้คือคำตอบที่ลงตัว