ในปี 2023 ก็มีอนิเมซีรี่ย์แจ้งเกิดบนจอหลายต่อหลายเรื่อง ในจำนวนนี้ ก็ยอมรับเลยว่า Oshi no Ko เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ กลายเป็นอนิเมที่กลายเป็น talk of the town มากที่สุดในรอบปีกระต่ายที่ผ่านมา
ผลงานมังงะต้นฉบับของ อ.Aka Akasaka กับ อ.Mengo Yokoyari เรื่องนี้ ก็ได้รับการกล่าวขวัญมาในระดับหนึ่ง ก่อนที่อนิเมเรื่องนี้จะออกอากาศ และเคยถูกเสนอเข้าชิงรางวัลมังงะยอดเยี่ยมมาแล้ว แน่นอนล่ะว่า เวอร์ชั่นอนิเมของเรื่องนี้ ย่อมถูกแฟนๆคาดหวังเอาไว้สูง จนกระทั่ง อนิเมเรื่องนี้ ได้ออกอากาศตอนแรกอย่างเป็นทางการ 1 ชั่วโมงเต็ม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของบ้านเรา ซึ่งการมาของตอนแรกนี้เอง ก็ถูกพูดถึงของชาวโซเชียลอย่างร้อนแรงไปทั่ว กับเนื้อหาของซีรี่ย์ที่มาทำนองคุณหลอกดาว (สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้มาก่อน) ว่า เป็นแนวไอด้อลใสๆ วัยว้าวุ่น ที่ต้องมาเลี้ยงดูลูกแฝดของตัวเอง (ซึ่งจริงๆ เป็นติ่ง / แฟนคลับ ผู้โอชิไอด้อลสาวผู้นี้ ที่กลับชาติมาเกิดใหม่) แต่เอาเข้าจริง กลับมาหน่วงตับแตก เรียกน้ำตาคนดูไหลพรากกันเอาท้ายตอน ซึ่งตลอดทั้งเรื่องนี้ เรื่องราวนั้นก็มาในหลากธีมผสมกัน โดยเน้นดราม่าแบบจัดเต็ม แสดงให้ความพยายามของหนุ่ม-สาว ในการแจ้งเกิดวงการไอด้อล กับ บันเทิง พร้อมกับตีแผ่แฉเรื่องดาร์กๆในวงการบันเทิง รวมถึง การพยายามสืบหาความจริง เกี่ยวกับบุคคลผู้มีส่วนสำคัญ อันนำมาซึ่งจุดจบของ โฮชิโนะ ไอ แห่ง B-Komachi ซึ่งเห็นแล้วได้แต่ลั่น “วงการบันเทิงอ่ะเนอะ” ตามพี่ปาล์มมี่ ซะจริงๆ!!!!!
นอกจากอนิเมจะโด่งดังแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะพูดถึงไปไม่ได้เลย และมีส่วนสำคัญ ในการช่วยหนุนทำให้อนิเมเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง นั่นคือ เพลงเปิดประจำเรื่อง อย่าง Idol ที่ขับร้องโดยศิลปินดูโอ้ YOASOBI ถึงเพลงดังกล่าวก็มาแรงตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก จนมียอดสตรีมมิ่ง กับ ยอดวิว MV พุ่งขึ้นถล่มทลาย ทะลุ 100 ล้านอย่างรวดเร็ว จนส่งผลทำให้เพลงดังกล่าว สร้างสถิติใหม่ให้กับตัวศิลปินเอง รวมถึง วงการเพลงญี่ปุ่น มากมาย ไล่กันไม่ไหว ทั้ง ทำยอดสตรีมมิ่งถึง 400 ล้านครั้ง รวดเร็วที่สุด , รั้งอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Japan Hot 100 มากกว่า 20 สัปดาห์ รวมถึงยังไปไกล ด้วยการขึ้นอันดับ 1 บน ชาร์ต Billboard ทั่วโลก (ยกเว้น สหรัฐ) อีกด้วย และจากความปังของเพลงนี้ในญี่ปุ่น ทำให้ มีการจัดทำเวอร์ชั่นเนื้อร้องภาษาอังกฤษแบบ Official , ถูกกลุ่มแฟนๆ นำมาจัดทำ AMV แบบแฟนเมด และ ถูกมิกซ์ในทำนองอื่นๆ รวมถึงหมอลำ-ลูกทุ่ง ด้วย ขณะเดียวกัน เพลงนี้ ก็ถูก “โจริญ” สมาชิกวง 4EVE นำไปร้องในรายการ The Mask Singer 12 ในนามของ “หน้ากากไซบีเรียน” อีกด้วย
ผลพวงจากความปังปุริเยของเรื่องนี้ ส่งผลทำให้มังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ มียอดจำหน่ายมากกว่า 9 ล้านเล่ม ภายในระยะเวลา 2 เดือน นับจากอนิเมทีวีออกอากาศ และทำให้มังงะเรื่องนี้ รั้งอันดับ 4 มังงะซีรี่ย์ขายดีในญี่ปุ่น ประจำปี 2023 ซึ่งจัดอันดับโดย Oricon รวมถึง ตัวอนิเม รั้งอันดับ 1 ของโพลอนิเมสุดโปรดประจำปี 2023 โดย Otona , อันดับ 1 อนิเมยอดฮิตประจำปี 2023 ของ Yahoo! Japan
เช่นเดียวกับ เพลงเปิดตัว “Idol” ของเรื่องนี้ครองแชมป์เพลงอนิเมคาราโอเกะยอดฮิตของญี่ปุ่น ประจำปี 2023 ขณะเดียวกัน YOASOBI ศิลปินเจ้าของเพลงดังกล่าว รั้งอันดับ 1 คีย์เวิร์ดที่มียอดค้นหาสูงสุดประจำปี 2023 ของ Google กับ Yahoo! Japan
ในประเภทเพลง เช่นกัน
จากความปังทั้งหลายทั้งปวงของเรื่องนี้ ที่เรากล่าวมาในข้างต้น นอกจากจะทำให้ อนิเม เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ได้ไฟเขียว ให้จัดทำต่อในซีซั่น 2 แล้ว ยังได้รับการดัดแปลงในรูปแบบหนังคนแสดง ที่จะได้รับชมกันในอนาคตอีกด้วย….
อย่างไรก็ตาม จากการที่อนิเมเรื่องนี้ มีการนำเสนอที่เป็นการตีแผ่เบื้องหลังอันดำมืดในวงการบันเทิงญี่ปุ่น โดยอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยเหตุการณ์ในตอนที่ 6 ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของ อาคาเนะ นักแสดงสาวดาวรุ่งพุ่งแรง พยายามจะปลิดชีพตัวเอง หลังจากพลั้งมือไปตบหน้าผู้ร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ ซึ่งเนื้อเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ดันไปพ้องกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ Hana Kimura นักมวยปล้ำสาวที่ตกเป็นเหยื่อบูลลี่บนโลกออนไลน์ จากการเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ จนตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ซึ่งก็ทำเอาตอนดังกล่าว ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชม และ องค์กรจริยธรรมทางทีวีของญี่ปุ่น เป็นวงกว้าง รวมไปถึง ยังสร้างความไม่พอใจให้แก่คุณแม่ของ Hana Kimura ที่ออกมาโจมตีด้วย เพราะมองว่า เป็นการไม่ให้เกียรติลูกสาวเธอ ไม่เพียงเท่านั้น จากการที่ตอนดังกล่าวมีเนื้อหาที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนต่อผู้ชม ทำให้HIDIVE ผู้ได้รับลิขสิทธิ์สตรีมมิ่งเรื่องนี้ในภาษาอังกฤษ ต้องขึ้นข้อความเตือนหลังจบการออกอากาศอีกด้วย