มฤตยูใต้น้ำทมิฬ : การเดินทางสู่หลักหมื่นล้านเยน ของ โคนัน ฉบับหนังโรง

มฤตยูใต้น้ำทมิฬ : การเดินทางสู่หลักหมื่นล้านเยน ของ โคนัน ฉบับหนังโรง

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ซีรี่ย์นักสืบเด็กที่อยู่คู่กับคอการ์ตูนมานานหลายสิบปี ก็มีฉบับภาพยนตร์อนิเมออกสู่สายตาแฟนๆเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 1997 เรื่อยมา ซึ่งหนังโคนัน เคยมีช่วงเวลาที่ทุบสถิติรายได้(เงินเยน)สูงสุดของตัวเอง อย่างต่อเนื่อง ยาวนานถึงแปดภาคติดต่อกัน ตั้งแต่ The Eleventh Striker จนถึง The Fist of Blue Sapphire เมื่อปี 2019 ก่อนสถิติดังกล่าว จะมาสะดุดลง กับ หนังภาค The Scarlet Bullet ที่เจอผลกระทบจากสถานการณ์โควิดไปเต็มๆ จนต้องเลื่อนฉายจากปี 2020 ไปเป็นปี 2021 แทน ถึงกระนั้น ทางทีมผู้หนังหนังอนิเม ยังคงเน้นไอเดียในการนำเสนอเรื่องราวของโคนันในหนังโรง ไปพร้อมกับผลัดสับเปลี่ยน เปิดโอกาสให้ตัวละครในเรื่องหลายคน กลายเป็นตัวเอกประจำหนังภาคนั้นๆ ส่งผลทำให้ หนังภาค The Bride of Halloween กลับคืนสู่โมเมนตั้มเดิมของตัวเอง ด้วยการทุบสถิติรายได้สูงสุดของหนังโคนันอีกครั้ง

และแล้วก็มาถึง The Iron Submarine หรือ มฤตยูใต้น้ำทมิฬ หนังประจำปี 2023 ของโคนัน ซึ่งได้กลุ่มคนชุดดำ รวมถึง ไฮบาระ ไอ เป็นตัวละครชูโรงประจำหนังภาคนี้ ซึ่งเนื้อหานั้น ก็ยังคงคล้ายๆเดิม คือ การไขคดีปริศนาคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในหนัง ของโคนัน ไปพร้อมกับ การช่วยเหลือไฮบาระ ที่ถูกพวกชุดดำลักพาตัวไป รวมถึง ซีนทำลายล้างที่จะขาดเสียไม่ได้ในโคนันฉบับหนังโรง ผ่านเรือดำน้ำสีดำขนาดใหญ่ยักษ์

จากการที่ตัวหนังได้นำเสนอเนื้อหาของกลุ่มคนชุดดำ ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนามากมายก่ายกอง ที่ทำให้หลายคนสนใจ ประกอบกับ การได้ ไฮบาระ กลายเป็นตัวเอกประจำหนังชุดนี้ ก็เข้าทางกลุ่มคนดูที่อวยตัวละครตัวนี้เป็นทุนเดิมอีก ส่งผลทำให้ตัวหนังได้รับความสนใจจากผู้ชม (พร้อมกับ สงครามกองอวย ระหว่าง ทีมไฮบาระ กับ ทีมรัน มาเต็มโซเชียลในช่วงเวลานั้น) ซะจนทำให้หนังชุดนี้ นอกจากจะทำรายได้เปิดตัววันแรก และ สุดสัปดาห์แรกสูงที่สุดของแฟรนไชส์แล้ว ยังกลายเป็นหนังภาคแรกของแฟรนไชส์โคนัน ที่สามารถทำรายได้เกินหมื่นล้านเยนได้สำเร็จ จากการฉายในญี่ปุ่นเพียง 24 วัน และเป็นสถิติหนังที่ทำเงินสูงสุดในบรรดาหนังทุกภาคของโคนัน ด้วยรายได้ 1.383 หมื่นล้านเยน

อีกมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้หนังชุดนี้ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งมาจากการตลาด ด้วยหนังอนิเมฉบับตัดต่อชุด อย่าง Detective Conan : Episode of Ai Haibara ~ Black Iron Mystery Train หรือ จุดเริ่มต้นของไฮบาระ ไอ : ปริศนารถด่วนทมิฬ ที่เข้าฉายบนโรงเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนจะได้ชมหนังภาคหลักของจริงในภายหลัง ซึ่งตัวหนังนั้น เป็นการนำเอาเรื่องราวจากมังงะ-อนิเมภาคหลัก มาตัดต่อกันเป็นหนังชุดเดียว ที่ทำให้เราได้รู้จักกับคาแร็คเตอร์ของไฮบาระ กับ แก๊งชุดดำ มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบ้านเรา ก็มีดราม่าเล็กๆ เกิดขึ้นกับ Episode of Ai Haibara จากการที่ทางอฟช. ตัดสินใจเปลี่ยนผู้ให้เสียงพากย์ไทยของไฮบาระ จากน้าเปียก วิภาดา จตุยศพร ที่พากย์บทนี้มานาน มาเป็น คุณแป้ง zbingz แทน ซึ่งนำไปสู่ฟีดแบ็คความไม่พอใจในหมู่แฟนโคนันชาวไทย ที่ยังคงคุ้นชินกับเสียงพากย์เดิม ซึ่งเข้าถึงคาแร็คเตอร์ของไฮบาระมากกว่า จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ทางอฟช.ของญี่ปุ่น รวมถึง บริษัทนำเข้าหนัง ได้รับฟังฟีดแบ็คจากแฟนๆ ส่งผลทำให้ น้าเปียก กลับมาพากย์เสียงเป็นไฮบาระตามเดิม ในหนังมฤตยูใต้น้ำทมิฬ ฉบับพากย์ไทย รวมถึง Episode of Ai Haibara ที่มีการฉายสตรีมบนแอพ Flixer ในเวลาต่อมา

และจากการมาของ มฤตยูใต้น้ำทมิฬ ที่ทำให้หนังจอเงินของโคนันทะลุหลักไมล์ หมื่นล้านเยน แม้จะเป็นการย่างก้าวที่ใช้เวลานานอยู่พอสมควร ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า หนังภาคถัดไปของโคนัน The Million Dollar Signpost ที่ได้ ฮัตโตริ เฮย์จิ มาเป็นตัวละครชูโรงประจำหนัง คู่กับ จอมโจรคิด (ที่กลับมาเป็นตัวเอกภาคมูฟวี่ รอบที่ล้านแปด) จะช่วยรักษาโมเมนตั้มหนังของโคนัน ให้ทะลุหมื่นล้านเยน เป็นภาคที่สอง ติดต่อกัน ได้หรือไม่? หากทำได้ ถือเป็นของขวัญล้ำค่า เป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี ของมังงะต้นฉบับของโคนัน ในปี 2024 นี้!!