ช่วงนี้หนังน่าดูเยอะเต็มไปหมดเลยใช่ไหมล่ะคะ เพื่อน ๆ ไปดูเรื่องไหนกันมาบ้างแล้ว มารีวิว มาแนะนำให้อ่านในคอมเมนต์กันบ้างน้า ส่วนเราวันนี้รู้สึกเบื่อ ๆ ไม่รู้จะทำไรดีก็เลยตัดสินใจไปหาหนังดูสักเรื่อง แล้วก็เจอว่า The Stone พระแท้คนเก๊ จะเข้าฉายวันนี้เป็นวันแรก เลยกตจองตั๋วหนังแบบไม่รังเรไปเลย 3 ใบ และต้องบอกเลยว่า “หนังเรื่องนี้เป็น หนังไทย อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ”
เรื่องย่อ The Stone
เอกเด็กหนุ่มที่กำลังต้องการเงินก้อนใหญ่ไปรักษาพ่อที่ป่วยต้องผ่าตัดสมอง ขณะที่เอกกำลังจนปัญญาในการหาเงินมาจ่ายค่ารักษาของพ่อ เขาก็ได้ไปสะดุดตากับพระเครื่องที่พ่อห้อยในคอจากภาพถ่ายในอัลบั้มรูปถ่ายที่บ้าน จากนั้นเอกเลยได้ติดสินใจติดต่อไปหาเฮียเซ้ง พาราไดซ์เพื่อที่จะนำพระไปปล่อยพอถึงวันนัดดูพระ อยู่ ๆ ยัยหมวย เซียนพระสาวดาวโซเชียลก็โผ่เข้ามาขัดลาภเฮียเซ็งจำทำให้เอกได้รู้ว่า พระของพ่อไม่ใช่พระธรรมดา แต่เป็นถึง “พระสมเด็จวัดระฆัง ของเฮียรัตน์” หรือ “พระสมเด็จเฮียรัตน์ในตำนาน” ที่หายไปจากตลาดพระนานถึง 30 ปี และแน่นอนว่า มูลค่าของพระองค์นี่อาจสูงถึงหลักร้อยล้านบาทเลยทีเดียว
เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองใน วงการเซียนพระ หมวยเลยขอเสนอตัวที่จะช่วยเองในการนำพระเข้าสู้ตลาด เอกก็จะได้ราคาพระที่สมเหตุสมผล หมวยก็ได้ชื่อเสียงว่าเป็นเซียนพระผู้หญิงอายุยังน้อย แต่สามารถดูพระสมเด็จในตำนานที่หายไปจากตลาดได้อย่าเฉียบขาด พร้อมของรายได้ 10% จากราคาพระที่ขายได้ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาให้เองก้าวเข้าสู้ความดำมืดของวงการเช่าพระของไทย
รีวิว The Stone
ก่อนอื่นต้องขอชมในเรื่องของงานภาพก่อนเลยค่ะว่า เราค่อนข้างที่จะชอบงานภาพของหนังเรื่องนี้ โดยภาพจะถูกย้อมออกมาให้มีความเป็นเหมือนฟิล์มใน หนังยุคสัก 90 หรือ 2000 แถมฉากต่าง ๆ ก็ค่อนข้างที่จะมีความคุมโทนอยู่พอสมควร ไม่ได้ค่อยจะมีการหลุดความโมเดิร์น หรือมินิมอลอะไรเข้ามา เว้นแต่ของใช้ต่าง ๆ ของตัวละคร เช่น สมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้าของหมวย หรือการขายพระผ่านไลฟ์สดที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่า โอเคหนังเรื่องนี้กำลังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่น้า
ต่อมาใหนส่วนของการเล่าเรื่อง หนังความยาว 120 นาที ต้องบอกเลยว่าแทบจะไม่มีจุดที่ย้วยเลย แต่มันอาจจะมีช่วงท้าย ๆ เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกว่า “อ้าวแล้วไงต่อ” แต่คุณยังไม่ต้องพูดออกมาหรอก เพราะเดี๋ยวตัวละครในเรื่องเขาจะพูดแทนคุณเอง ทำให้เรารู้สึกว่า นี่แหละคือความตั้งใจของคนเขียนบท และผู้กำกับจริง ๆ
แถมอีกอย่างหนึ่ง อันนี้จะเรียกว่าสปอยก็ได้นะ มันมีฉากที่ตัวละครมีการหักหลังกันเกิดขึ้น ทำให้ตัวละครที่ถูกหักหลังโกรธมาก ๆ ที่ถูกหักหลัง แล้วสิ่งที่เสียใจที่สุดไม่ใช่เครื่องเรื่องที่เขาไว้ใจคนผิด แต่เขายังพูดถึงเรื่องที่อีกฝ่ายพาไปเลี้ยงบาร์บีก้อน ซึ่งประโยคที่ตัวละครพูดออกมามันดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เราเข้าใจโมเมนท์และความรู้สึก ณ ตอนนั้นของตัวละครตัวนี้มาก ๆ ฟังแล้วโคตรจุกค่ะบอกเลย
นอกจากนี้สำหรับเราแล้ว เรารู้สึกว่าหนังก็ได้ตึงเกิดไป ระหว่างทางมีการหยอดมุขบ้างบางจังหวะทำให้คนดูรู้สึกผ่านคลายอยู่บ้างส่วนตัวคือชอบเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้คอมเมนต์ก็คงจะเป็นในส่วนไดอะล็อกของเอก ตัวเอกของเรื่องนี่แหละค่ะที่มันจะมีการย้ำความเป็นเจ้าของพระสมเด็จบ่อยเกินไปหน่อย แล้วมันก็จะเป็นไดอะล็อกเดิม ๆ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันอาจจะเยอะไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ชอบค่ะ หนังเรื่องนี้เป็น หนังไทย อีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากให้ทุกคนลอกไปดูกันนะคะ ถึงว่าเป็น 2 ชั่วโมงที่คุ้มค่าจริง ๆ
- ความยาว 120 นาที
- เข้าฉายวันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ (3 เมษายน 2025)
- 9/10 คะแนน
