รีวิวหนังเรื่อง Ballerina (2025)

รีวิวหนังเรื่อง Ballerina (2025)

Ballerina (2025) คือ หนังแอ็กชันเกาหลี ที่โอบล้อมด้วยความเศร้า ดิบ และเดือดพล่านไปด้วยความแค้น ถ่ายทอดผ่านสายตาของหญิงสาวนักฆ่าผู้มีหัวใจเพียงหนึ่งเดียวคือการล้างแค้นให้เพื่อนรักที่เสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรม หนังเรื่องนี้ไม่ได้เล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือแทรกอารมณ์หวานใดๆ แต่เลือกจะพุ่งชนเข้าไปในโลกที่แห้งแล้งไร้เยื่อใยและเต็มไปด้วยไฟแค้นร้อนแรงราวกับพายุที่ไม่มีวันสงบ

เรื่องราวของโอกจู (รับบทโดย จอนจงซอ) อดีตบอดี้การ์ดฝีมือระดับพระกาฬที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและไร้เป้าหมาย จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้รับจดหมายสุดท้ายจากเพื่อนสนิทที่ฆ่าตัวตายพร้อมคำขอร้องเพียงหนึ่งเดียว“ช่วยแก้แค้นให้ฉันด้วย” เพียงเท่านั้น โอกจูก็พร้อมจะเปลี่ยนทั้งชีวิตของเธอให้กลายเป็นอาวุธ เธอลงมือสืบ ค้น และตามล่าอย่างไร้ปรานี โดยมีเพียงความทรงจำกับความรักที่มีต่อเพื่อนเป็นแรงขับเคลื่อน

จอนจงซอ ถ่ายทอดโอกจูได้อย่างน่าเกรงขามและน่าสะเทือนใจ เธอไม่ได้เล่นใหญ่หรือหวือหวา แต่ความนิ่ง ความแข็งกร้าวที่ฉาบไว้ด้วยแววตาเศร้ากลับทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงพายุในใจที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ตลอดเวลา หนังพาเราเดินผ่านซีนแอ็กชันที่ถ่ายทำอย่างประณีต คม เฉียบ และจัดจ้านในสไตล์ neo-noir สีสันจัดจ้า ตัดกับความมืดมนในจิตใจของตัวละครหลักได้อย่างเฉียบแหลม

การกำกับของลี ชองฮยอน ที่เคยฝากฝีมือไว้ในหนังแนวจิตวิทยาอย่าง Call (2020) ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ดีในเรื่องนี้ Ballerina ไม่ใช่หนังที่เน้นเล่าเรื่องซับซ้อน แต่กลับโฟกัสไปที่อารมณ์ ความรู้สึก และพลังดิบของตัวละครอย่างเข้มข้น มันคือการตามล่าแบบเงียบงัน แต่น่าเกรงขาม เหมือนการเต้นรำของนักบัลเลต์ที่สง่างามบนพื้นเวทีแห่งเลือด

แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้พลิกผันมากนัก แต่หนังก็โดดเด่นด้วยสไตล์ภาพ เสียงประกอบที่จัดวางอย่างเฉียบคม และการแสดงที่ทรงพลังจนแทบไม่ต้องมีคำพูดใด หนังไม่พยายามสอนอะไรเรา แต่กลับสะท้อนให้เห็นว่า “ความรักที่แท้จริง” อาจไม่ต้องอยู่ในรูปแบบของคู่รักเสมอไป ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างเพื่อน ความผูกพันที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน แม้กระทั่งล้างแค้นแทน กลายเป็นประเด็นที่ทรงพลังมากพอจะเป็นแกนหลักให้หนังทั้งเรื่องหมุนไปอย่างดุดัน

Ballerina คือ หนังล้างแค้น ที่เปลี่ยนความโหดให้กลายเป็นศิลปะ มันคือบทบรรเลงแห่งความสูญเสียที่สง่างาม โหดเหี้ยม และงดงามในเวลาเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งผลงานจากเกาหลีใต้ที่ตอกย้ำให้เห็นว่าหนังแอ็กชันก็สามารถเล่าเรื่อง “ความรัก” ได้อย่างเฉียบขาด แม้ในความรักนั้นจะมีเพียงความเจ็บปวดเป็นรางวัล